29 October 2013

เครียดหรือเปล่า

Stress?
[Image credit: The Noun Project]
ถ้าใครเคยรู้สึกว่าตัวเองหิวน้ำบ่อย หัวใจเต้นโครมๆ และวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมตอนประชุมงาน ระหว่างทำงานก็มีอาการปวดไหล่ ปวดคอ ทั้งๆที่ไม่ได้นอนตกหมอน อีกทั้งช่วงนอนตอนกลางคืนก็ชอบตื่นมากลางดึกเองโดยไม่อะไรปลุกแล้วก็หลับต่อไป ตื่นเช้ามาก็เหนื่อยเหมือนกับไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน บ่อยครั้งที่เราเข้าใจว่าสงสัยจะเป็นโรคหัวใจหรือปัญหาสุขภาพ แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงสัญญาณของอาการเครียดที่เกินระบบร่างกายจะรับมือได้

คนที่ไม่เคยเป็นอาจจะไม่รู้ถึงอาการที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง ซึ่งก็แล้วแต่ที่ในแต่ละคนก็จะแสดงลักษณะทางร่างกายที่มีผลกระทบจากความเครียดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงลักษณะอาการแบบหนึ่งเท่านั้น

หากทุกคนเคยผ่านการทำงานที่ยาวนานต่อเนื่อง เช่น ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงโดยไม่หยุดเสาร์อาทิตย์เลยซัก 3 สัปดาห์ หรือทำงานวันละ 12-14 ชั่วโมงสัปดาห์ละ 6 วัน คงเคยผ่านสภาวะความเครียดแบบนี้กันมาแล้ว ความรู้สึกของตัวเองจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่จะทำให้เครียดแม้จะทำงานหนักขนาดนั้น แต่นั่นคือเราเริ่มสะสมความเครียดและความล้าจากการทำงานเก็บเอาไว้

25 October 2013

เชื่อหมดทุกอย่าง...และไหว้หมดทุกอย่าง

บทความนี้คัดลอกจาก Facebook ของพระภิกขุวีระวังสะ ที่ Post ข้อความเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2556 คิดว่าเป็นเครื่องช่วยเตือนใจให้เราอย่างมงายกับบางสิ่งบางอย่างที่อาจจะทำให้เข้าใจแนวคิดของพุทธศาสนาที่ผิดเพี้ยนไป เนื้อหามีดังต่อไปนี้ครับ

เรื่องแปลกๆ ที่ชาวพุทธไทยมักให้ความสำคัญมากกว่าพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างเรื่องพญานาคอะไรทำนองนี้เป็นเหตุให้อาตมาสงสัยมาตลอดว่าเรานับถือพระพุทธศาสนากันจริงๆ หรือเปล่า?

บ่อยครั้งหรืออาจจะนานแล้ว ที่เห็นหนังสือ Pocket Book ที่ (อ้างว่า) เป็นหนังสือธรรมะ พูดถึงเรื่องพญานาคที่โน่นที่นี่ บอกว่าเกจิอาจารย์ (ซึ่งก็คงไม่เข้าใจว่า คำว่าเกจิอาจารย์หมายถึงอะไร) องค์นั้นองค์นี้ หลวงปู่หลวงพ่อรูปนั้นรูปนี้ได้พบเห็นพญานาคที่ถ้ำแห่งโน้นแห่งนี้ เห็นที่ริมฝั่งแม่น้ำโน่นนี่นั่น หลายที่หลายแห่งหลายรูปหลายท่าน แล้วก็บอกว่าได้พบเห็นพญานาค ก็เป็นที่ตื่นตาตื่นใจอัศจรรย์ใจกันไปในหมู่ผู้เลื่อมใสศรัทธา แต่ในทัศนะของอาตมาไม่เข้าใจว่า การรู้เรื่องพวกนี้ มีประโยชน์อะไรต่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ หรือการกำจัดกิเลส หรือการบรรเทาทุกข์ในปัจจุบันและทุกข์ในภายหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนามุ่งเน้นและเป็นเป้าหมายสำคัญ

Thai respect to sand drawing graffiti (Image source is unknown)
เราบอกว่า เรานับถือ "พระพุทธศาสนา" เราบอกว่า "ฉันเป็นชาวพุทธ" แต่น่าแปลกที่เราเหมือนจะไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า ไม่ได้นับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ แต่เรากำลังเอาอะไรแปลกๆ มาเป็นสรณะ การอ้างถึงสัตว์ประหลาดๆ อย่างพญานาคอะไรเหล่านี้ น่าแปลกเหมือนกันว่ามันเกี่ยวอะไรกับพระพุทธศาสนาตรงไหน? จริงอยู่ว่าในชาดกหลายพระชาติแห่งการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ได้กล่าวถึงพระชาติที่เกิดเป็นพญานาคก็มีเหมือนกัน เช่นเสวยพระชาติเป็น ภูริทัตตนาคราช, เสวยพระชาติเป็นจัมเปยยนาคราช แต่ถ้าหากอ่านชาดกทั้งสองเรื่องนี้ให้ชัดจะเห็นว่า นาคราชทั้งสองท่าน ต่างก็รังเกียจสภาวะนาคของตนเองซึ่งเป็น "สัตว์เดรัจฉาน" และปรารถนาจะอุบัติเป็นมนุษย์ เพื่อที่จะได้บำเพ็ญบุญกุศล ได้ปฏิบัติธรรม ดังข้อความหนึ่งในจัมเปยยชาดกว่า "เมื่อพระมหาสัตว์เจ้าเสวยนาคราชสมบัติอยู่ในนาคพิภพนั้น ในเวลาต่อมาก็เกิดวิปฏิสาร คิดว่า ประโยชน์อะไรด้วยกำเนิดดิรัจฉานนี้แก่เรา เราจักอยู่รักษาอุโบสถกรรม พ้นจากอัตภาพนี้ไปสู่ดินแดนมนุษย์ จักได้แทงตลอดสัจจธรรม กระทำที่สุดแห่งทุกข์ดังนี้"

แท้ที่จริงพระพุทธศาสนามุ่งเน้นในศักยภาพของมนุษย์เป็นสำคัญ เพราะมนุษย์สามารถจะประกอบกิจการกุศลนานาประการได้ แม้แต่เทวดาก็ยังปรารถนาสุคติคือความเป็นมนุษย์ ดังในอังคุตตรนิกาย ติกนิบาต กล่าวถึงเทวดาเมื่อจะจุติ(ตาย) จากสวรรค์ไปเกิดใหม่ เทวดาเพื่อนก็จะบอกว่า ขอให้ท่านไปอุบัติในสุคติภูมิ คือโลกมนุษย์ เพื่อจะได้ทำบุญทำกุศล ได้พบพระพุทธศาสนา ได้บำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรม เมื่อเราศึกษาพระพุทธศาสนาจะเห็นว่า พระพุทธศาสนามุ่งจะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์เป็นหลัก ให้มนุษย์มั่นใจว่าเราเป็นผู้ที่สามารถจะพ้นจากความทุกข์ได้ด้วยตัวเราเอง โดยไม่ต้องอาศัยไม่ต้องขอร้องอ้อนวอนผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหน พญานาคแม้จะอยากบวช (ตามตำนานที่เคยมี และที่มีในพระวินัยปิฎก) ก็บวชไม่ได้ เพราะไม่ใช่มนุษย์ นั่นแสดงว่า มนุษย์สำคัญที่สุด ในแง่ที่ มีศักยภาพที่จะปฏิบัติธรรมที่จะหลุดพ้นด้วยตนเอง

22 October 2013

ทำระบบส่ง Mail ได้เยอะๆ ไม่โดนเป็น Spam แนะนำแบบบ้านๆ

ผู้ให้บริการ e-mail server หรือผู้ดูแลระบบองค์กรขนาดใหญ่ ถ้าจะให้ประเมินว่าใหญ่ขนาดไหน เอาประมาณว่าเป็นองค์กรที่มีพนักงานระดับหลักพันคนขึ้นไปก็แล้วกัน ถ้ามีระบบ e-mail ภายใต้ชื่อ domain เดียวกันแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในแต่ละวันจะมี e-mail เข้าออกจากระบบมากถึงครึ่งแสนรายการ

ยิ่งไปกว่านั้น การที่มีผู้ใช้บริการมาก การทำงานในเชิงการสื่อสารธุรกิจด้วระบบ e-mail ก็ยิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการใช้ระบบ e-mail ในการสื่อสารหรือแจ้งไปยังลูกค้าก็จะเกิดความรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการส่งแบบกระดาษไปที่บ้านแน่นอน

จากประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้ดูแลห่างๆ ของระบบ Mail server ให้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเคยพบว่า ระบบจะมีปัญหาเวลาส่ง e-mail บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการส่งไปหาผู้ให้บริการเจ้าใหญ่อย่าง Gmail, Live Mail (Hotmail เดิม), หรือ Yahoo Mail ซึ่งพบว่า เมื่อมีการทยอยส่งไปแล้ว ตัวเครื่องผู้ให้บริการปลายทางจะหยุดรับเป็นการชั่วคราว เพราะปริมาณ e-mail ต่อชั่วโมงเต็มพิกัด หรือ ไม่ก็ถูกตอบ Error ว่ากำลังเข้าข่ายจะเป็น Spam เลยถูก Block ไว้ก่อน

ปัญหานี้เลยเป็นกรณีศึกษาที่ดี เพราะเอกสารประเภทบทวิเคราะห์กว่าจะเขียนได้ก็ต้องช่วงค่ำก่อนเปิดตลาดหุ้นวันใหม่ ถ้าส่งช้ากว่า 10.00 น. ก็ไม่ทันการ เพราะผู้รับก็คงอยากจะอ่านก่อนเปิดตลาด จึงจะสามารถตัดสินใจวางราคาได้ถูกต้อง การแก้ไขปัญหาโดยการทยอยส่ง e-mail นั้นจึงทำไม่ได้ ยังไงก็ต้องดันทุรังส่งๆไปก่อน ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังดี

18 October 2013

เครื่องสำอางค์เกาหลี ขายในไทยต้องแพงกว่า 2 เท่า

Myeongdong Market Area
Myeongdong [Photos by David (randomwire)]
ถ้าใครเคยได้ไปเกาหลีย่านตลาดเมียงดง ซึ่งเป็นแหล่ง Shopping สำคัญที่สุดที่คนไทย (แบบทัวร์) ต้องถูกบังคับไปเดินทุกรายไป ในวันที่อากาศดีหน่อยจะเจอพนักงานร้านเครื่องสำอางค์เกาหลี โดยเฉพาะ Skinfood หรือ Etude จะตะโกนเรียกลูกค้าว่า "เมืองทายขัยพังกว่า 3 ท่าว" (ออกเสียงตามนะ) ซึ่งสามารถเรียกลูกค้าที่ฟังไทยออกต้องเลี้ยวกรูกันเข้าไปซื้อกันได้มาโดยตลอด

Blog นี้ด้วยความกึ่งเป็น insider เขียนนิดหน่อย เพราะการที่เราทำงานในบริษัทที่นำเข้าเครื่องสำอางค์เกาหลี (ถ้าไปดูประวัติผมก็รู้ทันทีแหละว่าทำงานอยู่ไหน) ก็เลยพอรู้ Process การทำงานบ้าง ซึ่งในมุมมองแบบตรงไปตรงมา การที่เรามีโอกาสเดินทางไปที่แหล่งขายจริงๆที่เกาหลี และรับทราบราคาขายหน้าร้านในไทย ก็ฟันธงเลยทันทีว่าราคาแพงกว่า 2 เท่านั้นเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย แถมบางรายการแพงกว่าเป็น 2.5 เท่าด้วยซ้ำ

เพื่อไว้ตอบคำถามเพื่อนๆว่า ทำไมสินค้านำเข้าตัวนี้ถึงต้องคูณขึ้นไปขนาดนั้น ถ้ามานั่งมองกระบวนการจากภายในเชิงลึกแล้วผมตอบว่า การที่ราคาขายในไทยของแต่ละ Brand ต้องเป็นแบบนี้มันมีหลายประเด็นที่ผู้ซื้อในไทยอาจจะไม่ได้คิดถึงกระบวนการ และที่มาที่ไปของเหตุผลการเพิ่มราคาของสินค้าในหลายมิติดังนี้นะครับ

15 October 2013

คิดแบบ Social Sanction ไม่รู้ตัว

ต้องรอให้กระแสตกไปหน่อยนึง ไม่งั้นเดี๋ยวโดนคนคลั่งอนุเสาวรีย์เอาเลือดไปล้างเท้า สำหรับกรณีการโพสข้อความ Facebook จากผู้ใช้งานท่านหนึ่ง ที่ได้พูดถึงย่าโมซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนโคราชว่า การไปกราบไหว้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ย่าโมกลายเป็นความเชื่องมงาย ซึ่งความเป็นจริงแล้วย่าโมได้ถูกอ้างอิงประวัติศาสตร์ไว้ว่าเป็นวีรสตรี สำหรับเรื่องราวความเป็นมาเป็นไป เว็บ Drama Addict ได้ลงลำดับเหตุการณ์ไว้ชัดเจนในบทความเรื่องย่าโมรบพม่า

การทำ Social Control เป็นกระบวนการทางสังคมอย่างหนึ่งที่คนกลุ่มหนึ่งจะพยายามควบคุมบุคคลหรือกลุ่มคนให้ปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกับตน ด้วยความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงหรือควบคุมบางอย่างเพื่อให้เป็นไปตามธรรมชาติ อยู่ในความสงบเรียบร้อย และเกิดความสงบสุข ซึ่งถ้าดูจากคำอธิบายแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดูดีทีเดียว

แต่ Social Sanction เป็นพฤติกรรมในทางลบที่กลุ่มคนชุดหนึ่งพยายามหักล้าง หรือหักดิบแนวความคิดของบุคคลหรือกลุ่มคนด้วยวิธีการที่คุกคามทางร่างกายมากขึ้น เช่น การให้ร้าย, การขมขู่, การชิงเอาทรัพย์สิน, การทำร้ายร่างกาย, หรือการฆ่าผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นในเมืองไทยหลายครั้งอาจจะสังเกตุเห็นว่าผลลัพธ์อยู่ในรูปแบบของ Social Sanction มากกว่าการเป็น Social Control

สื่อ Online ทั่วไปให้คำจำกัดความว่า 'ย่าโมเลี่ยน' คือผู้ที่มีความคิดสุดโต่ง แม้ในข้อความรูปภาพจะดูไม่รุนแรง แต่ผู้ Post comment ใน Page กลับเน้นความรุนแรงตั้งแต่ทำการข่มขู่ทำร้ายร่างกายถึงการขู่ฆ่าเป็นจำนวนมาก
ในต่างประเทศ มีกรณีการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายของ Carolina Picchio เด็กหญิงวัย 14 ปีที่อิตาลี ที่กลุ่มสังคมออนไลน์ได้นำภาพที่น่าอับอายนำแสดงขึ้นบนอินเตอร์เน็ต ถือเป็นการกล่าวให้ร้าย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคสังคมและหน่วยงานราชการได้ไล่บี้และการนำเอาข้อความที่ไม่เหมาะสมออกในภายหลัง เดือดร้อนถึงบริษัท Facebook กันเลยทีเดียว

สำหรับในไทย ตัวอย่างที่เห็นผลประจักษ์ของ Social Sanction คือกรณีการทุบพระพรหมเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2006 ซึ่งทุกฝ่ายต่างยินยอมให้เรื่องการเสียชีวิตของผู้ทุบทำลายเป็นเรื่องที่แล้วก็แล้วไป ซึ่งเป็นการก่อความรุนแรงเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ไม่พอใจ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายนั่นเอง

การจะให้ผู้คนมีความคิดในการทำ Social Control สำหรับคนไทยคงไม่ง่าย เพราะวัฒนธรรมและแนวความคิดของเรายังมีความเชื่อมั่นและศรัทธาอยู่เป็นตัวตั้ง ตราบใดที่เกิดการ "ขัดศรัทธา" แล้วคนกลุ่มใหญ่ยังมีความต้องการในการควบคุมไปในวิถีของตัวเองเท่านั้น คำตอบที่ง่ายและสั้นกว่าคือหักดิบกันไปเลยเพราะมันเป็น "ธรรมเนียมปฏิบัติ"

Written by Tiwakorn Laophulsuk

12 October 2013

ประเทศไทย เวลา ไฟฟ้า และนิวเคลียร์

Coal Power Plant [Image source Interesting Energy Facts]
มีหลายครั้งที่ไปแวะเที่ยวต่างประเทศ ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของวิถีชีวิตของประเทศต่างๆ ทั้งออสเตรเลีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น, มาเก๊า ทุกคนจะเน้นแต่การประหยัดน้ำ นั่นคือที่แปลกเพราะไม่มีที่ไหนพูดเรื่องการ "ประหยัดไฟ" ซักเท่าไหร่

มีแค่เวียดนามประเทศเดียวที่พูดถึงเรื่องไฟฟ้าจริงๆจังๆ เพราะช่วงที่ผมเคยไปทำงานระยะสั้นที่เวียดนามได้นั่งคุยกับคนเวียดนามท่านหนึ่งที่อยู่ในกรุ๊ป One Day Trip ด้วยกัน พูดเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าว่า ประเทศเวียดนามเองโอยเฉพาะเมืองหลวงมีไฟฟ้าไม่พอ ในช่วงหัวค่ำทางราชการจะแจ้งเกี่ยวกับโซนดับไฟฟ้า ซึ่งจะหมุนเวียนกันดับไฟฟ้าผลัดกันไปพื้นที่ละ 1 ชั่วโมง ปัญหานี้คงจะเป็นไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งคำบอกเล่านี่จริงของเขา เพราะผมไปเดิน Big C ในฮานอยพบปัญหาไฟดับตั้ง 4 รอบ

ตอนนั้นใจก็นึกไปว่า เพราะพวกประเทศใหญ่ๆมันมีนิวเคลียร์ มันเลยไม่ต้องประหยัดไฟฟ้ากระมังเขาก็เลยจัดกันเต็มที่ ก็เลยอยากจะรู้ว่าพวกนั้นเขาจ่ายค่าไฟถูกกว่าเราหรืออย่างไร

09 October 2013

ยาน Kepler กับภารกิจเพื่อตามหาโลกใหม่

ถ้าจะเริ่มตอบคำถามว่าโลกสีฟ้าที่เราอยู่มีเพียงดวงเดียวเท่านั้นรึเปล่า หรือการจะหาคำตอบว่า ดาวดวงอื่นๆที่เหมือนดวงอาทิตย์ของเรา มีดาวเคราะห์อยู่มากน้อยแค่ไหน คำตอบนั้นสามารถหาได้ชัดเจนขึ้นด้วยยานสำรวจ Kepler
Kepler Search field of view
Kepler Search field of view
[Source: NASA Kepler]

ที่มาของโครงการยานสำรวจ Kepler มีเป้าหมายเพื่อระบุชี้ชัดว่า มีดาวเคราะห์อยู่ในระบบวงโคจรอยู่รอบดาวฤกษ์หรือเปล่า โดยมีวิธีการทำงานคือ การลอยในวงโคจรรอบดวงอาทิตย์อย่างช้าๆ และมองไปยังกลุ่มดาวบางส่วนในอวกาศในพื้นที่เดียวเป็นระยะเวลานาน การตรวจจับดาวเคราะห์ในระบบที่อยู่ไกลมีหลักการเหมือนการเกิดสุริยุปราคา เมื่อมีดาวเคราะห์เคลื่อนที่ผ่านหน้าดาวฤกษ์ดวงใดดวงหนึ่ง จะเกิดการลดทอนของแสงลงบางส่วน ซึ่งจะทำให้ความสว่างลดลงไปเล็กน้อยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (ราวๆ 1 ชั่วโมง ถึง 16 ชั่วโมง) การระบุชี้ชัดว่าดาวเคราะห์เป็นดวงเดิมหรือไม่ก็เพียงแค่ดูว่า ระยะเวลาและความสว่างนั้นลดลงจากเดิมอยู่ในรูปแบบเดิมหรือไม่ ความท้าทายคือการตรวจวัดแสงที่เปลี่ยนแปลงในระดับ 1/10000 ส่วน (หรือ 100/1,000,000 ppm ของความสว่าง) และยาน Kepler ต้องมองดวงดาวพร้อมกันครั้งละ 100,000 ดวง

06 October 2013

หนัง Gravity สำหรับคนที่ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณตั๋วฟรีจาก KBank ในบริการ The Premiere ที่ส่ง SMS สิทธิพิเศษชวนให้ไปดูภาพยนตร์ Gravity ฟรี 2 ที่นั่ง ซึ่งยังจัดโรงใหญ่ที่ SFX Central World เหมือนเดิม ซึ่งตอนแรกก็หมายตาไว้อยู่แล้วว่าคงต้องไปดูเพราะมันเป็นแนว Sci-fi ที่ชอบอยู่แล้ว การได้บัตรฟรีพร้อมป๊อบคอร์นเป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ อิ อิ

Plot เรื่องเป็อุบัติเหตุของการปฏิบัติภาระกิจการซ่อมอุปกรณ์กล้องโทรทัศน์ Hubble บนอวกาศ ซึ่งปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีเศษขยะอวกาศความเร็วสูงที่เพิ่งเกิดขึ้นจากการระเบิดของดาวเทียมดวงอื่น นักบินอวกาศจึงต้องหาทางดิ้นรถในการเอาตัวรอดให้ได้ แต่สำหรับ Plot เรื่องละเอียดๆคงหาอ่านได้ตาม Web ชั้นนำทั่วไป

Gravity Movie Poster
ภาพยนตร์ Gravity สำหรับผู้ที่ไม่ทราบเรื่อง Space Science อาจจะดูน่าเบื่อ ภาพหมุนไปหมุนมา เครื่องไม้เครื่องมือแปลกเยอะไปหมด ไม่รู้ว่าแต่ละอย่างเอาไว้ทำอะไร อีกทั้งยานชื่อแปลกๆมากมาย แต่สำหรับคนที่รู้เรื่องก็จะสามารถติดตามและคิดหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อลุ้นช่วยตัวละครไปด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละอันมันคืออะไรบ้างโดยอธิบายกันแบบบ้านๆครับ

กระสวยอวกาศ
กระสวยอวกาศ [images from nasa-satellites blog]
Space Shuttle กระสวยอวกาศที่ออกแบบมาเพื่อนำมาใช้สำหรับการขนส่งนักบินอวกาศ, หรืออุปกรณ์สิ่งของซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ ซึ่งสหรัฐเป็นผู้ควบคุมภารกิจ ส่วนในภาพยนตร์ STS-157 ก็คือหมายเลขภารกิจของกระสวยอวกาศลำนี้ที่ตั้งชื่อว่า Explorer นั่นเอง

04 October 2013

มือใหม่กองทุนรวม

สำหรับคนที่พอมีเงินเก็บ (บ้าง) ก็จะได้รับคำบอกเล่าว่า การเก็บเงินในบัญชีออมทรัพย์ หรือการฝากประจำผลตอบแทนมันน้อย แต่พอจะเอาเงินไปลงทุนในหุ้นก็เจอคำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ก็เลยไม่เสี่ยงดีกว่าเป็นความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่ยังกล้าๆกลัว

กองทุนรวมเป็นคำตอบสำหรับจุดตรงกลาง ระหว่าง การเก็บเงินในบัญชีกับการเอาไปลงทุนในหุ้น สมมติถ้าเรามาลองเรียงลำดับความเสี่ยง จากเสี่ยงน้อยไปมากโดยปกติมักจะเป็นแบบนี้
  • เงินฝากออมทรัพย์
  • เงินฝากประจำ
  • พันธบัตรรัฐบาล
  • กองทุนรวม
  • หุ้นในตลาดหลักทรัพย์
  • การลงทุนทำธุรกิจเอง/เปิดนิติบุคคล
  • และ การเอาเงินไปฝังไหหลังบ้าน
ข้อสุดท้ายแค่ล้อเล่นนะ แต่มันเสี่ยงสุดจริงๆเพราะการฝังไห นอกจากเงินจะไม่งอกเงยแล้วแถมยังเสี่ยงต่อความเสียหายด้วย

ถ้าอยากอ่านแบบเป็นทางการ ผมคงแนะนำให้อ่านจาก กองทุนรวมคืออะไรของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC ซึ่งเขาเขียนในเชิงรายละเอียดชัดเจนดี แต่ถ้าคนขี้เกียจอ่าน ผมก็คงยกอุปมาอุปไมยสำหรับกองทุนไปตามตัวอย่างดังต่อไปนี้

01 October 2013

งานกับอิสระของชีวิต

Images from iconarchive.com
ทุกคนที่ทำงานในท้ายสุดผมเชื่อว่า ความต้องการในสุดท้ายปลายทางคืออิสระทางการเงิน เพราะเมื่อมีแล้วการใช้ชีวิตจะมีอิสระได้มากขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้นคนเราต้องทำงานซักรูปแบบหนึ่งก่อน ตามประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา มีงานอยู่ 4 ประเภท
  • ข้าราชการหรือองค์กรของรัฐ
  • ภาคเอกชน
  • ภาค MLM
  • และวิชาชีพอิสระ หรือ Freelance
แม้ว่าอาชีพแต่ละแบบจะมีความยืดหยุ่น, ผลตอบแทน, ความเข้มข้นของงานที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ทุกงานต่างมีข้อผูกมัดเรื่องอิสระของการใช้ชีวิตประมาณหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งว่าถ้าเราต้องการจะประสบความสำเร็จได้เร็ว ก็ต้องมีภาระหน้าที่อันหนักก่อนจะไปถึงจุดนั้น

แม้ความฝันคือการได้มีความอิสระในการใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ การท่องเที่ยวและได้ไปในที่ที่เราอยากจะไป บางครั้งต้องแขวนไว้กับความรับผิดชอบตามไปด้วย เพราะเมื่อใดที่งานเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องแบกรับแก้ไขกันไปตามแต่ความเหมาะสม จะง่ายจะยากอยู่ที่การวางแผนรองรับ

ทุกวันนี้การทำงานไปสลับทำกิจกรรมในสิ่งที่เราฝันไว้จึงเป็นเพียงหนทางหนึ่งที่ช่วยให้รางวัลกับชีวิตได้ จึงไม่มีงานไหนเป็นอิสระอย่างแท้จริงนอกจากจะทำตัวเป็นผู้ว่างงานเท่านั้น

ความง่ายไม่ใช่ให้เลือกงานที่รัก แต่ให้หาข้อดีของงานเพื่อให้รักงานที่จะทำ ความเป็นอิสระอาจจะจะเริ่มจากตรงจุดง่ายๆนี้ก็เป็นได้

Written by Tiwakorn Laophulsuk