รถไฟใต้ดิน งงสถานี ดูสีได้

รถไฟฟ้าใต้ดินสายปัจจุบันที่ใช้งานกันอยู่ เป็นรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน เส้นแรกที่เปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2547 ผู้เขียนยังจำได้ว่าได้ไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตั้งแต่วันเปิดช่วงแรกๆ ซึ่งคงเป็นการทำ Load test ของระบบ ซึ่งน่าประทับใจที่ระหว่างเส้นทางก็เป็นอุโมงค์มืดๆ แต่ช่วยให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเดินทางไปทำงาน และแก้ไขปัญหาตาม site งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เขียนเองก็ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบ่อยมาก แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายเงินมากจนทำให้ MRT รวยหรอกนะ

เรื่องเล่าเล็กๆน้อยๆรอบนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของสีโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินที่เป็นแผนก่อสร้าง แต่เป็นเรื่องของสี ที่คนที่ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สายสีน้ำเงินบ่อยอยู่แล้ว อาจจะไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก หรือบางคนที่ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินในระดับไม่เกินปี อาจจะไม่สังเกตุเห็นว่าแต่ละสถานีมี "สี" ประจำสถานีด้วย

เนื่องจากตัวผู้เขียนเองก็ยังไม่ได้ e-mail ไปถามกับทาง MRT ว่า ระบบสีที่กำหนดให้แต่ละสถานีต่างๆ มีไว้ใช้เพื่อความสวยงามหรือไม่ แต่ด้วยเราเป็นพวกชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย ก็เลยเดาถึงประโยชน์ว่า ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่สามารถอ่านป้ายสถานีที่ติดอยู่ตามเสาได้ หรือ ผู้พิการทางหูที่ไม่สามารถได้ยินเสียงประกาศในขบวนรถ ก็จะยังจะทราบถึงสถานีที่รถไฟฟ้าเข้าจอดได้ โดยสังเกตุจากแถบสี หรือรูปแบบการก่อสร้างที่ใช้กระเบื้องต่างสี เป็นสัญลักษณ์กำกับตัวสถานี โดยสีที่พอจำได้ มีดังนี้

หมอดู คู่หมอเดา

คำทำนาย ปี 2555 ความว่า

"อีก 38 ปี (2555) จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวรุนแรงเกือบทั่วโลก จะโดนทั้งไทย พม่า ฯลฯ กรุงเทพฯ จมดินจมน้ำ เขื่อนที่จังหวัดตากก็พัง ในเวลายามสองในคืนปีใหม่ คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เกิดแผ่นดินไหวมีคนตายมากมาย" -- บันทึกคุณพ่อ ดช.ปลาบู่

"นอกจากนั้นแล้ว ยังจะเกิดเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อนแตก น้ำทะลักสู่เบื้องล่างจมหายแทบทั้งหมด ต่อเนื่องมาถึงกรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายหลายหมื่นคน นอกจากนั้นแล้ว ยังจะเกิดแผ่นดินทรุด อาจทำให้ประเทศไทยเสียแถบชายฝั่งทะเลอันดามันงแต่จังหวัดระนองลงมาไปหมด ส่วนที่เกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา จะถูกคลื่นยักษ์สึนามิพุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่กว่าปี พ.ศ.2547  กวาดผู้คน บ้านเรือน ยานพาหนะ ลงทะเลเกือบหมดสิ้น" -- โสรัจจะ นวลอยู่ 20 ธันวาคม 2554

อ่านแล้วแทบจะไม่ต้องเป็นอันทำมาหากินกันต่อ นอกจากนอนรอความตายอยู่เบื้องหน้า ซึ่งคำทำนายส่วนใหญ่ต่างก็ผิดๆถูกๆ เหมือนเหวี่ยงแหไป ใครทายถูกก็ดัง ส่วนที่ทายไม่ถูกก็เงียบไปเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

แต่ก็ข้อดีของการอ่านคำทำนายแผลงๆ เหล่านี้ อย่างน้อยก็ให้โอกาสพวก Nerd ได้คิด ว่าจะรับมือกับปัญหาอย่างไร และไม่ซ้ำรอยกับกรณีศึกษาที่มีมาจากแหลายๆที่

อหังการ มมังการ มานานุสัย

ฮะหาย เจ้าเป็นใคร ไฉนบังอาจ
เสียงตวาด ใต้กะลา พาฉงน
มาเปิดครอบ กะลาเรา เจ้ามือซน
ไปให้พ้น อย่ามายุ่ง กับกะลา

ข้าฯตัวพอง สยองขน ชนกับขอบ
ข้าฯ ชื่นชอบ ตัวข้าฯ ใหญ่ ใครจะกล้า
ซ้ายชนขอบ ขวาชนขอบ ขอบกะลา
อยากจะหา ใครที่กล้า มาลองดู

แก้ปัญหา Netcut? คำตอบสำหรับ Network Admin

มี mail คุยกันเรื่อง Netcut ที่ว่าเราจะสามารถหาผู้ใช้ Netcut ในระบบ Network ได้อย่างไร คงยกตัวอย่างที่ค่อนข้างชัดเจนให้ก่อนนะครับ

ex1) กรณีโดน ARP poisoning ตัว network ที่อยู่ในรูปแบบของ LAN อุปกรณ์ที่เป็น Network Interface จะได้รับ ARP ปลอมเกือบทั้งหมด ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้จากรูปแบบนี้

Accidentally move file into Documents and Settings on Win7?

The Windows 7 in the OS installation drive (Usually C:\). There are 'Documents and Settings' folder that state hidden and read protected. You may moving files and every folder into it but you may not click to view inside of it.

Windows 7 Documents and Settings

Trust me it looking panic in the first place, and you are geeky enough by showing hidden files and system folder, until you realize that the folder is alias with C:\Users on the same drive. and it was the same content in it. Your moved/copy files and folder will be there.

If you running as administrator you can try to change folder permission using advance button in folder security tab (guided by not recommended). This folder was create by system and use to make it compatible with older applications.

Relief?

Mr.JingJun บ่นทั่วไป มีนาคม 2556

ในที่สุดเราก็นั่งหลังแข็งทำ HTML ไม่ไหว หลายคนคงคิดในใจว่า "อะไรกัน นี่เอ็งยังนั่งทำ HTML อยู่เหรอ" แต่คำตอบก็คงเรื่องของความไม่มีเวลา และ Platform ของ Blogger เป็นระบบที่เอื้ออำนวยในการจัดการข้อมูลมาก เพราะเราแอบทั้งรูป ทั้งไฟล์ ไว้บน Clouds ของ Google ทั้งกะบิ ตอนนี้เลยมั่นใจมากว่า ถ้าลืมต่อ domain ไป อย่างน้อยบทความก็ยังอยู่บนโลก internet ต่อไปได้

บทความที่อยากเก็บไว้ก็ย้ายมาแล้ว และอันที่เขียนไม่ได้เรื่องก็นำออกไปแล้ว ตัวอย่างของบทความที่นำออกก็เช่น เรื่องราวของแผ่นดินไหวปี 2004 เพราะเวลาที่ล่วงเลยมา เรามีกรณีศึกษาของเฮติ, ญี่ปุ่น ที่ปัญหาของภัยธรรมชาติเขาร้ายแรงกว่าเราเยอะ และเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา กรณีศึกษาของเหตุภัยพิบัติในประเทศเราก็เป็นประโยชน์ต่อโลกไปบ้าง ก็เลยลบๆไปดีกว่า

เรื่องราวของ blog ก็คงไม่พ้นด้าน IT, การทำงาน, ดาราศาสตร์, ภัยธรรมชาติ โดยแต่ละเรื่องจะยำกันเละไปเลยละกัน โดย blog จาก Facebook ก็จะย้ายมาลงที่นี่แทน

บ่นโดย Tiwakorn Laophulsuk

11-Mar-2012 23:59:00