การทำงานประจำจึงเป็นการเริ่มต้นชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ที่ในแต่ละเดือนก็จะมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าเศษรฐกิจจะยากดีมีจนอย่างไร ก็เป็นการรับประกันว่าเรายังมีรายได้ที่มั่นคงอยู่ รวมไปถึงในหลายๆหน่วยงาน ก็มีการปรับฐานเงินเดือนให้เติบโตขึ้นตามส่วน และสิ้นปีก็มีโบนัสบ้าง ไม่มีโบนัสบ้างแล้วแต่สภาพแวดล้อมก็ว่ากันไป
แม้ว่าการทำงานแบบ Freelance หรือการเปิดธุรกิจเอง เป็นทางเลือกที่มีโอกาสทำเงินก้อนโตได้ ตามความสามารถของตัวเอง แต่ในสนามธุรกิจที่ทำส่วนตัวก็เป็นบรรยากาศแบบคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า เพราะมีทั้งผู้ที่ทำแล้วสำเร็จได้เงินเยอะ (รวย) และก็มีจุดผิดพลาดที่ทำแล้วขาดทุนไป แต่โดยมากที่เราฟังกันตามสื่อก็จะเป็นคนที่ทำสำเร็จเท่านั้นแหละที่ถูกหยิบมาพูดถึง ส่วนคนที่ขาดทุนไม่มีใครจะมาสารภาพให้สื่อฟังเท่าไหร่หรอก
การทำงานไปวันๆในสนามของมนุษย์เงินเดือน จึงเป็นจุดที่บอกได้ว่าไม่ว่าจะทำไปนานเท่าไหร่เราก็ไม่รวยขึ้น เพราะเงินได้จะมาเพียงพอต่อรายจ่ายประจำเดือน อีกทั้งในระยะเวลาหนึ่งการมีครอบครัว หรือมีลูกเต้าก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายโตทันการเติบโตของเงินเดือนนั่นแหละ จึงเป็นเหตุผลที่ทำยังไงก็ไม่รวยซักที
ปัจจัยอื่นที่จะทำให้ราวยจากงานประจำได้ จึงไม่ช่ความตั้งอกตั้งใจในการทำงานหรือรอเงินเดือนขึ้น แต่เป็นทางเลือกจากวิธีทำแค่ไม่กี่อย่าง ตามความเห็นส่วนตัว ผมว่าทางเลือกมีดังนี้
- การเปลี่ยนตำแหน่ง โยกย้ายงานหรือที่ทำงาน
- การเติบโตในสายงานวิชาชีพเฉพาะที่เป็นธุรกิจหลักขององค์กร เช่น ทำงานด้านการตลาดในบริษัทการตลาด, ทำงานด้าน IT ในบริษัท IT
- การแสวงหาโอกาสพิเศษของการได้รายได้เพิ่มจากหน่วยงาน เช่น โครงการพิเศษที่มีการจ่ายเงินเป็นกรณีเฉพาะ
สุดท้ายต้องมาดูที่ว่า ความรวยวัดกันที่อะไร ต้องได้เงินเยอะเกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือ ได้เงิน 25,000 บาทต่อเดือนถือว่ารวยแล้วหรือไม่ บางคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวมีรายได้วันละ 10,000 บาท แต่พอตัดสิ้นเดือนกำไรจริงๆเหลือ ไม่กี่บาท ก็รู้สึกดีเพราะเงินได้ผ่านมือเยอะ บางทีเรื่องนี้ก็เป็นความรู้สึกของคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันมากกว่า และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็คงเป็นการหา Work Life Balance อยู่ดี
Written by Tiwakorn Laophulsuk
No comments:
Post a Comment
Give a comment ...