Showing posts with label Blogging. Show all posts
Showing posts with label Blogging. Show all posts

26 April 2016

Word from Author: เก็บตกสงกรานต์


ผ่านสงกรานต์ไปอีกรอบนึงซึ่งผมก็จะมาเขียนบ่นทุกปีนะครับ ปีนี้มาเขียนช้าหน่อยเพราะช่วงวันหยุดมันช่างร้อนเหลือทน เลยไม่รู้ว่าอากาศมันร้อนขึ้นหรือเราทนได้น้อยลงกันแน่ แถมยังมีกิจกรรมขับรถไปทำบุญจังหวัดใกล้ๆ กทม. นิดหน่อย

หยุดสงกรานต์ทุกปี ก็ต้องอยู่ทำความสะอาดบ้าน หิ้งพระตามเรื่องตามราว ซึ่งเป็นกิจกรรมเหมือนเดิมทุกปี แต่ถ้าวกกลับไปมองด้านเทคโนโลยีตลอดช่วง Internet boom ที่ผ่านมาก็มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ทุกครั้งเวลาข้ามปีมา

งานเปิดตัวเมื่อก่อนยุคโทรศัพท์ ก็จะเป็นพวก CPU ที่มีความเร็วสูงขึ้น, ขนาดเล็กลง หรือการพัฒนา Socket ประเภทใหม่ๆ ถัดมาในยุค CPU ถึงจุดที่ตันแล้ว ก็เปิดการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ หรือ Gadget ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งในหลายรอบปีก็เป็นประมาณนี้

แต่ในสงกรานต์ปีนี้ เป็นการเปิดตัวเรื่องต่อยอดของเทคโนโลยีอื่นๆทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะ Platform ของ Facebook ที่เปิดตัว AI ของระบบ Messenger, และการอำนวยความสะดวกสบายในด้านการ Publish Content ให้เร็วและง่ายไปกว่าเดิม รวมไปถึง Google ที่สามารถเล่น Go ได้ชนะ ทำให้เห็นว่าระบบ Machine Learning น่าจะเป็นการพัฒนาสำคัญมากต่อไปต่อยอดจากระบบ Hardware ที่ถึงจุดอิ่มตัว

เมื่อก่อนการพัฒนาผลิตภัฒฑ์หลังการวิจัยทำเสร็จอาจจะใช้เวลาหลายปี ในตอนนี้หากวิจัยอะไรได้สำเร็จแล้วจะใช้เวลาไม่นานนักในการปล่อยออกสู่ตลาด Commercial เร็วกว่าเมื่อก่อน เป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจมีความบีบรัดมากกว่าในสมัยแค่ช่วง 10 ปีก่อนมากนัก

รุ่นเราจึงต้องก้าวขาให้เร็วกว่าคนรุ่นก่อน แม้ว่าจะเดินตามไม่ทันแต่ก็ต้องเรียนรู้ให้ทัน เป็นเรื่องบังคับในยุคนี้จริงๆ

Mr.JingJun

01 April 2016

April Fool Day เรื่องโกหกที่จำฝังใจ

ความสนุกอีกอันนึงของวันที่ 1 เมษา บน Internet จะมีเรื่องขำๆตลอดเวลา List นี้คงเป็นช่วงแรกของ Internet ที่วเราเองก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง

1) Voodoo Graphic Card ทำ Multiple Core ซึ่งขึ้น Website หลักๆสมัยนั้น


2) Google Pigeon Rank เป็นการจัด Search Results โดยตัวเราเองไปเข้าใจผิดนึกว่าเป็น Sorting Algorithm ที่มีประสิทธิภาพสูง มารู้ตัวทีหลังนานเลยทีเดียว


และในปีนี้ April Fool Day ก็คงจะได้ลุ้นทุกปีว่าปีนี้จะเจออะไร

This Articles Dominate for April Fool Day
Written by Tiwakorn Laophulsuk

25 March 2016

ถ้าเอาเครื่องบินลงไม่ได้ ก็ Go Around สิ

จาก Blog ที่เคยเขียนเรื่อง Holding Stack ซึ่งเป็นกรณีที่หอบังคับการ (ATC) ไม่สามารถเอาเครื่องเข้าคิวในการลงจอดได้ ในบางกรณีที่เครื่องได้เข้าขั้นตอนการลงจอดแล้ว ก็อาจจะมีบางเหตุการณ์ที่มีความจำเป็นต้องยกเลิกการลงจอดแบบกะทันหัน ซึ่งขั้นตอนนี้คือการทำ Go Around

Credit Flightradar24: สายการบิน Korean Air ทำ Go Around ที่สุวรรณภูมิ เนื่องจากลมแรง
การทำ Go Around มีความจำเป็นกรณีมีเหตุขัดข้องที่ Runway เช่น มียานพาหนะหรือสิ่งของแปลกปลอม, ปัญหาเรื่องกระแสลมแนวขวางผิดปกติ นักบินต้องตัดสินใจยกเลิกการลงจอด หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของหอบังคับการบินในการทำ Go Around ก่อนจะวนกลับมาทำขั้นตอนการลงจอดใหม่

สายการบิน Emirate ทำ Go Around เนื่องจากเกิด Crosswind

แม้การทำ Go Around จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มไปอีกหน่อย แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนก็ต้องนั่งนิ่งๆนะครับ ใครเคยนั่งเครื่องแล้วเจอกับเหตุการณ์เครื่องจะลงก็ไม่ลงคงได้ประสบการณ์กันไปบ้างในบางคน

Mr.JingJun

09 February 2016

รัฐธรรมมาภิบาล

เนื่องจากช่วงนี้เว้นว่างจากกีฬาสี เพราะมีทีมสีเขียวดูแลประเทศอยู่ ก็ช่วยให้บรรยากาศกีฬาสีแบบเดิมๆ ห่างหายไปบ้าง แต่ก็ได้ลุ้นกับรัฐธรรมนูญใหม่ว่าจะออกมาแบบไหน วันนี้ในมุมของการดูแลโดยทหารก็มีความสงบไปในอีกรูปแบบหนึ่ง บรรยากาศข่าวสารบ้านเมืองแตกต่างจากยุคเลือกตั้งธรรมดา

ย้อนกลับไปคิดที่มาที่ไปของปัญหาทั้งหมด จากความพยายามต่อต้านรัฐบาล โดยสมัชชาคนจน, คนเสื้อแดง, คนเสื้อเหลือง, ไล่มากจน กปปส., คนเเสื้อหลากสี ทุกกลุ่มมีศัตรูถาวรของการจงเกลียดจงชังอีกฝ่าย เพราะการไม่ได้รับความเท่าเทียมกันในเชิงนโยบายของรัฐบาล ณ ขณะนั้น และก็เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้ามไปวันๆ

เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง พรรคใหญ่มีสูตรสำเร็จเอาชนะเสียงข้างมาก ไม่ต้องรวมพรรคย่อยๆ และใช้สิทธิของเสียงข้างมากในการยกมือในงานนิติบัญญัติ ออกกฎหมายที่หัวหน้าทีมต้องการ โดยใช้หลักการเสียงข้างมากยกมือได้มากกว่าก็ชนะไป โดยไม่รู้หรอกว่ากฎหมายนั้นมันใช่หรือมันดีหรือเปล่า

ชนชั้นกลางในเมืองก็ก่นด่าคนต่างจังหวัดว่าเลือกตั้งไม่เป็น เอาแต่พรรคการเมืองไม่ดีเข้าสภา และคนจนก็มองกลับด้านว่าชนชั้นกลางมีแต่ผู้เอารัดเอาเปรียบ การเลือกคนที่ช่วยดูแลเอาใจใส่ชุมชนของเขา ก็เป็นสิทธิของเขาที่มองเห็นคุณค่าของคุณงามความดีที่จะเลือก สส. เข้าไป โดยที่ไม่ได้มองว่าเป็นพรรคการเมืองไหน

01 January 2016

ช่วงผู้เขียนบ่น: Happy New Year 2016

Happy New Year 2016 [image src: happynewyear2016-quotes.com]
ผ่านไปอีก 1 ปีสำหรับปี 2015 ปลายปีนี่การเมืองเข้มขันจริงๆ เพราะใน Feed นอกจาก จำนำข้าว ราชภักดิ์ เผาเมือง ปิดสนามบิน สลับระหว่างน้องมะลิเต้นดุ๊กดิ๊ก ถ้าอ่านคน Comment ผ่าน Social Media ของแต่ละสำนักข่าวก็บอกเลยว่าประเทศไทยมันปรองดองไม่ได้หรอก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ "เอาที่สบายใจ" เลือกตั้งปีนี้ก็อาจจะเละอยู่ดี

บรรดาพรรคการเมือง และบุคคลทางการเมืองต่างมีชนักติดหลังทุกก๊ก ทั้งมีทุจริตที่ดิน ทุจริตซื้อขายหุ้น จำนำข้าว ฆ่าคนตาย 99 ศพ รวมไปถึงทุจริตโครงการก่อสร้างสวนใหญ่ๆแถวหัวหิน ครอบคลุมไปซะทุกพรรคการเมือง เลยยากที่จะหาคนมาช่วยดูแลภาพรวมทางการเมืองได้ เราในฐานะประชาชนคงได้แค่นั่งเรียบรู้ และใช้สิทธิในการเลือก และพยายามไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก

กลับมาเรื่องของตัวเองที่เดือนนี้ คงเป็นเดือนที่ครบ 1 ปีของการไม่ได้เป็น IT Manager และหันหัวมาในทีมพัฒนาโครงการด้าน IT แทน ขอบอกเลยสบายใจอย่างมาก ถ้าของขวัญปีใหม่ที่มอบให้ตัวเองก็คงเป็นเรื่องการตัดสินใจที่ถูกต้องนี่แหละที่ดีที่สุด

1 ปี ก็เป็นจุดที่โลกเดินทางมาอยู่ในจุดเดิมเมื่อปีที่แล้ว ความสุข ปัญหา และทางเดินของชีวิตของบางคนก็กลับมาเดินในวิถีโคจรเดิม หรือ อาจจะได้เลี้ยวสู่การเดินทางแบบใหม่ แต่อยากให้ทุกคนมีความสุขและสบายใจกับเส้นทางของตัวเองในวันนี้และตลอดปี 2016 ครับ

Tiwakorn Laophulsuk

13 April 2015

Word from Author, Songkran 2015

กลับมาอีกครั้งในวันครบรอบช่วงที่พอมีเวลาว่างของปี จะทำ website ได้รอบนึงก็ต้องรอสงกรานต์สินะ

ในรอบปี 2014-2015 เป็นช่วงที่ blog น้อยมาก เพราะมีความจำเป็นจากภาระหน้าที่การงานที่ต้องปรับเปลี่ยน อาจจะบอกได้ว่าหนีงานเยอะแต่ไม่ยาก มาหางานที่ยากแต่ไม่เยอะ ซึ่งเป็นหนทางที่พัฒนาตัวเองได้ดีกว่า รวมทั้งงานโครงการสำคัญอย่าง TOT Greeting Call ที่กำลังอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม เป็นงานวาระแห่งชาติที่มีคนทำน้อยซะเหลือเกิน

ในรอบปีที่ผ่านมา ข่าวสารหลักๆก็เป็นเรื่องราวที่ไหลตาม Social Media และคงเป็น Generation ใหญ่ที่ยังจะต้องมีรูปแบบการสื่อสารไปอีกนาน จนกว่าจะเข้าสู่ยุค Ubiquity ที่สื่อ Social หรือวิธีการสื่อสารจะกระโดดไปอีกแบบหนึ่ง

ปี 2015 เป็นการเปลี่ยนถ่ายของสื่อ TV อีกทางหนึ่ง และการที่มีข่าวสารมาขึ้นก็เป็นการงัดเอาข้อมูลทั้งดีและไม่ดีขึ้นมานำเสนอมากขึ้น หน้าที่ของพลเมืองก็คงเป็นผู้เสพข่าวอย่างมีวิจารณญาณต่อไป และขอให้มีความสุขในวันสงกราต์ที่หยุดยาวกัน 5 วันเลยทีเดียว

Mr.JingJun

09 March 2015

หนึ่งขวบปริศนา MH370

ครบ 1 ปี ของการหายไปเครื่องบินมาเลเซีย Flight MH370 หากใครที่ยังติดตามข่าวตั้งแต่วันแรกก็คงคิดเหมือนกันว่าจากการหายของเครื่องที่ดูเป็นอุบัติเหตุธรรมดากลายไปเป็นการหายไปของเครื่องบินที่มีมูลค่าในการค้นหาสูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์โลก และจนถึงวันนี้การค้นหาก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคำตอบอยู่ยังอยู่ในตัวเครื่องที่ต้องหาให้เจอนี่แหละ

MH370 flight path derived from primary and secondary radar data [Image source: Andrew Heneen]
ความพยายามในค้นหาเครื่อง MH370 ได้ถูกตัดสินใจโดยอ้างอิงข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุดเป็นตัวตั้ง แม้ว่าจะมีทฤษฏีมากมายที่บุคคลทั่วไปหรือสื่อสารมวลชลพยายามเติมเข้ามาถึงความเป็นไปได้ แต่ทั้งหมดซึ่งทุกฝ่ายก็พยายามใช้ข้อมูลที่ดีที่สุดในการประเมินแล้ว คำถามที่เกิดในลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญที่มีคำตอบแล้ว มีดังนี้

ขาดการติดต่อที่นำไปสู่การหายไป
การหายไปของเครื่อง MH370 เกิดขึ้นในจังหวะรอยต่อการเปลี่ยนพื้นที่ติดต่อ ATC (Air Traffic Control) ในการบินของเครื่องจะต้องผ่าน Way-point ของเส้นทางการบิน ซึ่งหลังจากการยืนยันระดับความสูงและฟังข้อมูลของความถี่วิทยุที่จะส่งต่อไปยังความถี่ 120.9MHz ของศูนย์ควบคุมการบินเวียดนามแล้ว กลายเป็นการติดต่อทางวิทยุครั้งสุดท้าย ที่เวลา 1.19 น. ของวันที่ 9 มีนาคม ตามเวลาของมาเลเซีย

เครื่องบินถูกปิดอุปกรณ์ Transponder
เวลา 1.21 น. หรือประมาณสามนาทีให้หลังจากการติดต่อทางวิทยุ สถานี Secondary Radar ไม่สามารถจับสัญญาณจาก MH370 ได้ โดยสถานะล่าสุดของสัญญาณระบุว่ายังบินด้วยความเร็วปกติที่ 872 km/h แล้วความสูงปกติที่ 35,000 feet หรือเรียกสถานะการบินนี้ว่า Cruising Altitude

ความพยายามในการติดต่อสื่อสาร
หลังจาก 7 นาทีจากการติดต่อทางวิทยุ ที่ศูนย์สื่อสาร ATC ของเวียดนามไม่สามารถติดต่อกับเครื่องบินทางวิทยุได้ จึงได้ทำการขอไปยังเครื่องบินที่อยู่ใกล้คือเที่ยวบิน MH386 ทำการเรียกผ่านช่องวิทยุฉุกเฉินในเวลา 1.30 น. แต่ไม่มีสัญญาณตอบกลับ ศูนย์วิทยุการบินได้ทำการประสานไปยังศูนย์ควบคุมเดินอากาศของกัมพูชาที่ยืนยันว่าไม่มีการติดต่อเข้ามาของ MH370 จนกระทั่งเวลา 5.19 น. ทางศูนย์มาเลยเซียได้ทดลองให้ศูนย์เวียดนามประสานไปยังประเทศจีน รวมไปถึงศูนย์วิทยุการบินสิงคโปร์ได้ทำข้อมูลสอบถามเข้ามายังมาเลเซีย จึงได้ข้อสรุปว่า เที่ยวบิน MH370 ไม่ได้ข้ามเขตการเดินอากาศของประเทศมาเลเซียไปที่ใดเลย อีกทั้งในเวลา 2.39 น. และเวลา 7.13 น. ก็มีการใช้โทรศัพท์ดาวเทียมโทรเข้าไปหาห้องนักบินของเที่ยวบิน MH370 แต่ก็ไม่มีการรับสายเช่นกัน

18 November 2014

แก้ Bug เพื่อในหลวงจ้ะ

Blog นี้ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าตั้งแต่เริ่มทำงานมายังไม่เคยทำหนังสือเพื่อแจ้งโน่นนี่กับระบบงานราชการเลยซักครั้ง และเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมิตรสหายผู้หลงเข้ามาอ่าน Blog เรื่อง "หยุดแชร์ ภงด.94 ของพระเจ้าอยู่หัว ทำขึ้นมาปลอม คิดและตอบแบบคนเสียภาษี" ได้ให้ข้อท้วงติดเกี่ยวกับหมายเลขประจำตัวประชาชนของบุคคลชั้นพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีข้อถกเถียงกันว่า รหัสประจำตัวประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 9 มีอยู่หรือไม่

การพิสูจน์ทราบเลยส่งผลต่อเนื่องไปผ่านการทดสอบโดยระบบการตรวจสอบทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผู้ใช้ให้หมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องเข้าไป ระบบจะแจ้งชื่อ-สกุล และรายการที่ไม่ไปใช้สิทธิขึ้นมาให้ แต่ ... ความไม่ปกติมันเกิดก็เพราะเมื่อใส่รหัสประจำตัวประชาชนของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์เข้าไปกลับปรากฏว่าสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จริง!!

หนังสือตอบกลับจากงานสารสนเทศของกรมการปกครอง
กรณีการค้นหารายชื่อจากบัตรประจำตัวของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์
ราวๆต้นเดือนพฤษภาคม 2557 จึงได้ทำหนังสือไปยังผู้บริการงานสารสนเทศของกรมการปกครอง และทักท้วงไปถึงความผิดปกติของระบบที่สามารถให้ตรวจรายชื่อของบุคคลที่มีหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนที่ขึ้นด้วยเลข 9 ได้ ซึ่งต้องขอขอบคุณ ผอ.สำนักบริหารการทะเบียนที่ให้หน่วยงานช่วยตอบหนังสือกลับมาที่ผม และได้ช่วยแก้ไขช่องว่างของระบบให้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งโดยเจตนาแล้วการที่ปิดระบบไป ในความเห็นส่วนตัวของผมคือปิดช่องทางที่เหล่าบรรดาติ่งการเมืองจะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาอ้างถึงการไปใช้หรือไม่ไปใช้สิทธิของเหล่าพระองค์ท่านเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ขอขอบคุณ คุณ Pongsmile Pongsa ผู้ที่เจอ Bug นี้และแจ้งผ่านมา และขอขอบคุณ ผอ.สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยที่ไม่ทอดทิ้งเอกสารของผมนะครับ

Written by Tiwakorn Laophulsuk

19 August 2014

รับ 112 ไหมครับ?

เขียนแบบเบาๆมานาน รอบนี้ขออนุญาตเขียนหนักหน่อยนะ เพราะในแต่ละวันผ่านไป สื่อ Online ที่กว้างขวางและเข้าถึงคนได้มากขึ้น มีผลต่อทุกเรื่องจริงๆ ทั้งสังคมและสถาบันสำคัญต่างๆในประเทศ จึงขออนุญาตเขียนเป็นความรู้มากกว่าการวิพากย์วิจารย์ เพราะทราบอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะทางใดก็มีทั้งผู้เห็นด้วยและคัดค้านอยู่แล้ว

บน Facebook มีเพจหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นเพจที่หมิ่นเหม่ แต่มีความแปลกอยู่ในวิธีการนำเสนอ 'ลัทธิคนไทยรักในหลวงจนเสียสติ' ซึ่งต้นกำเนิดของวลีดังกล่าว มาจากสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับหนึ่งที่หยิบ quote ของผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่งบนหน้านิตยสารรายสัปดาห์ และให้ข้อความไว้ว่า 'รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักในหลวงจนเสียสติ' จึงกลายมาเป็นที่มาที่ไปของวลีดังกล่าว และถูกใช้อ้างอิงสำหรับกลุ่มคนที่เป็น Royalist ตั้งแต่นั้นเป็ต้นมา


โดยในเพจนั้น ถ้าเข้าไปดูและคิดอย่างเป็นกลางมีโอกาสจะพบเรื่องทั้งสองด้าน ในหลายจังหวะก็มีเหตุน่าโดน ban เพราะการวิพากย์วิจารณ์สถาบันเช่นกัน แต่ก็มักจะไหวตัวทันนำเนื้อหาออกไปเสียก่อนทุกครั้ง แต่อีกด้านหนึ่งจะเป็นการรวบรวมเนื้อหาจากที่อื่นๆ ที่กลุ่มคน Royalist ได้ทำการ Post, หรือกล่าวประโยคต่างๆที่สนับสนุนสถาบันอย่างสุดโต่ง โดยมากเป็นการหยิบประโยคที่ใช้คำหยาบคายในการด่าผู้อื่นที่ไม่รักสถาบัน, การถ่ายรูปพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีมีวัตถุบดบังแล้วเอามาตีความโยงใยการเมือง, การสักรูปพระบรมฉายาลักษณ์ตามร่างกาย, หรือภาพไฟไหม้อาคารแล้วมีพระบรมฉายาลักษณ์ที่ไม่ถูกไหม้

15 May 2014

Let the People Decide!

"Let the People Decide! "
campaign note
[Image source Art Bact']
"ภาคีประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!" เป็นการรวมตัวของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ ปรารถนาจะเห็นประเทศเดินหน้าต่อไปได้ด้วยการเคารพสิทธิและเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย จึงได้มาร่วมกันนำเสนอทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้

เราขอพูดด้วยเสียงของประชาชนผู้ต้องการอยู่อย่างสงบสันติ คิดแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ไม่เอาปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ต้องการเห็นการบิดเบือนกฎหมายและหลักนิติธรรมอีกต่อไป และปรารถนาจะเห็นการปฏิรูปร่วมกัน ของคนทั้งสังคมบนพื้นฐานประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน ท่ามกลางสถานการณ์ขณะนี้ เราเห็นว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะนำประเทศเข้าสู่สุญญากาศทางการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกฯ คนกลางที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถือเป็นวิธีการนอกระบอบประชาธิปไตย เป็นการลิดรอนสิทธิเสียงของประชาชนพลเมืองในประเทศนี้อย่างชัดเจน

เราขอยืนยันว่าทางออกของความขัดแย้งครั้งนี้ คือให้ประชาชนได้กำหนดอนาคตตนเอง ได้มีส่วนในการตัดสินใจต่อชะตากรรมประเทศด้วยสิทธิเสียงที่มีอยู่เท่ากันทุกผู้นาม เพราะ “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!” เราขอเสนอต่อทุกภาคส่วนดังนี้

1. เดินหน้าเลือกตั้งให้เร็วที่สุดตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพราะการเลือกตั้งคือทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติในระบอบประชาธิปไตย
2. ขอให้เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดปกป้องการเลือกตั้ง ด้วยวิถีทางต่างๆ เท่าที่แต่ละคนแต่ละกลุ่มจะทำได้บนพื้นฐานของการเคารพความเห็นที่แตกต่างและไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
3. ขอให้องค์การต่างๆ ที่พยายามหาทางออกให้กับบ้านเมืองในขณะนี้ ดังเช่นวุฒิสภา กรุณาให้โอกาสเราชี้แจ รับฟังและเคารพในความเห็นของภาคประชาชนนี้อีกฝ่ายหนึ่งด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ กปปส. หรือ นปช. เท่านั้น

เราเชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้งลุกลามบานปลายรุนแรงจนไปสู่สงครามกลางเมือง ก่อนจะถึงวันนั้นทุกฝ่ายต้องกลับสู่การเลือกตั้งเท่านั้น เพราะ “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!”

แถลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 

ภาคีประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide! ประกอบด้วย กลุ่มขั้วที่ 3 คัดค้านความรุนแรง ,เครือข่ายพลเมืองเพื่อความหวัง Citizen for Hope, กลุ่มพอกันที!, กลุ่ม Respect My Vote, กลุ่ม My Freedom, กลุ่มสภาหน้าโดม, กลุ่มคนเท่ากัน,กลุ่มเพื่อนรักกัน ,กลุ่ม We Vote, กลุ่ม Ant’s Power เป็นต้น

ภาคีประชาชนคือคนกลางฯ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันรณรงค์ด้วยการเขียนป้าย “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide” ถ่ายรูปกับป้าย แล้วติด tag #ประชาชนคือคนกลาง #Let_the_People_Decide ใน facebook, instragram ส่งต่อจากเพื่อนถึงเพื่อนให้มากที่สุด เพื่อประเทศไทยที่คิดต่างได้และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

13 April 2014

Mr.JingJun บ่นทั่วไป สงกรานต์ 2557

Happy วันสงกราต์อีกรอบ ซึ่งก็ครบ 16 ปีการทำ Web นี้เช่นเดียวกัน

ในรอบปีที่ผ่านมาของสงกรานต์หลายครั้งก็จะมีสีสันการชุมนุมทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่ปีนี้เป็นรอบของการชุมนุมของฝั่ง กปปส. เพื่อขับไล่รัฐบาลเพื่อไทย ส่วนตัวผมเองก็คิดว่ากิจกรรมทางการเมืองแบบนี้ก็จะเกิดจากทุกฝ่ายการเมือง ทุกสี ไปอีกหลายปี

รอบปีที่ผ่านมาเขียน blog ต่อเนื่องน้อยลง อาจจะเป็นเพราะ Project ที่ทำงานเข้มข้นมากขึ้น ตอนนี้ก็ยังคงมีหลายเรื่องที่อยากเขียนแต่ต้องทำ research ข้อมูลให้แม่นยำซะก่อน ทั้งประเด็นการเมือง, MH370, ปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าสนใจ, และที่ถนัดก็คงด้าน IT นี่แหละ

วันหยุดยาวสงกรานต์ทุกครั้งจึงเป็นเทศกาลที่ได้เคลียร์งานคั่งค้างสะสมระยะยาวของปีให้หมดไปเช่นกัน สวัสดีปีใหม่ไทยครับ

Mr.JingJun

28 March 2014

FSX Around the World in 16 flights

Starting since Christmas with Flight Simulator X. With no other work productivity I have take weeks for the flight using Learjet 45 to make flight around the world.

Flight Simulator X

I have familiar to this game since FS2000. The development of this game in later version make me cannot afford for computer specification. until today I can work with this one again.

The first attempt long time ago I failed to make flight through Pacific Ocean. The new IFR flight-plan able me to finish world tour without fuel cheating. Now for anyone whom interest we can make 18 flight using private jet to trip around the world here.

1) Bangkok Intl -> Macau
The destination of gambling city.

2) Macau -> South Korea (Inchon Intl)
The hi-tech country of the world

21 March 2014

โจทย์ชั่งกระต่าย หมา แมว

จาก Social Media เรื่องการแก้โจทย์ชั่งหมาแมวกระต่าย ที่ว่าเด็ก ป.3 คิดนาทีเดียวออก อันนี้ยอมรับว่าเราโง่กว่าเด็ก ป.3 เพราะคิดสมการ 3 ตัวแปรนี่ก็เกือบ 10 นาที

3 Variable of measurement

กำหนดตัวแปร กระต่าย, แมว, หมา (x, y, z) ตามลำดับ

กำหนดสมการเป็น
x+y=10 (1)
x+z=20 (2)
y+z=24 (3)

ย้ายข้าง
y=10-x
z=20-x

แทนที่ สมการ (3) เพื่อให้เหลือแต่ตัวแปร x
(10-x)+(20-x)=24
10-x+20-x=24
30-2x=24
-2x=-6

ดังนั้น
กระต่าย = x = 3

แทนที่ x ในสมการ (1)
3+y=10
แมว = y = 7

แทนที่ x ในสมการ (3)
3+z=20
หมา = z = 17

คำตอบคือถ้าชั่งรวมกันทั้งสามตัวจะได้ x+y+z = 3+7+17 = 27 kg

Mr.JingJun

18 February 2014

Drama Addict ชีวิตอย่าไปติดเรื่องน้ำเน่า

กระแสเว็บ Drama-Addict ที่บางรอบก็มีเรื่อง Hot บางเรื่องก็เบาๆ ในมุมของผู้ติดตามแบบเราก็เห็นวิวัฒนาการ และอีกมุมหนึ่งก็เห็นสังคมออนไลน์ไปด้วย blog นี้ก็เลยจะพูดสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นและได้รับจากเว็บนี้ละกัน

เป็นเวลาพักใหญ่ๆแล้วสำหรับเว็ปไซต์ Drama-Addict ที่อยู่บนโลกออนไลน์มาหลายปี มุมมองของผู้ใช้งานยุดแรกของเว็ปจะเป็นการหยิบยกประเด็นที่กระทู้ใหญ่ๆอย่าง Pantip ที่เมื่อใดมีผู้ใช้งานเริ่มสาดโคลนและเถียงกันไปมาได้แบบอีรุงตุงนังแล้วล่ะก็ เรื่องนั้นจะถูกยกมาสรุปใน Drama Addict ทันที

เป็นเรื่องธรรมดาที่เรื่องดรามาหลายเรื่องก็น่าสนใจบ้างไม่น่าสนใจบ้าง ซึ่งทำให้ไม่ได้ติดตามตลอดในทุกเรื่อง แต่ในความเข้าใจของเราก็ยกย่องความสามารถของผู้เขียนเรื่องบนเว็ปไซต์ (อาจจะเป็นจ่าพิชิตเอง หรือผู้ช่วยถ้ามี) ที่สามารถแยกแยะประเด็นและล้วงแคะแกะเกาความเชื่อมโยงได้หลายมิติ เพราะเอาแบบเราๆท่านๆไปนั่งอ่านกระทู้ตอบ 400 - 500 รายการก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าทำเท่าไหร่

แม้ว่าสไตล์การเขียนออกจะเป็นแนวหยิ่งยะโส แต่นั่นเป็นแนวทางของการเขียนของเขาเอง เพราะก็มีหลายกรณีถ้าดรามาที่อื่นลดลง การสร้างดรามาเองใน Facebook เพื่อท้าทายสังคมออนไลน์ก็มีบ่อยครั้ง ซึ่งหลายครั้งก็เป็นการสอนสังคมว่า คนที่โกรธมากกว่ามักจะมองเห็นอะไรสั้นกว่า ถ้า Drama-Addict เล่นเรื่องไหนเองแล้ว คู่ต่อสู้มักจะแพ้ตลอด

ภาษาในเว็บอาจจะดูหยาบคายในทุกๆประโยคอธิบาย แต่ทุกคำของภาษาไทยไม่เคยมีพิมพ์ผิด, และเว็บดรามาเป็นการขุดเรื่องราวความคิดอันน่าละเหี่ยใจของคนออนไลน์มานำเสนอ ไม่ได้เป็นการตอกย้ำว่าสังคมมันแย่ลง แต่โลกอินเตอรเน็ตมันได้ขุดปัญหาที่มีอยู่แล้วขึ้นมานำเสนอให้เราดูเป็นคติสอนใจเพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นต่างหาก คงเป็นเหตุผลที่น้ำเน่าสอนให้เรารู้จักน้ำดีนั่นเอง

Written by Tiwakorn Laophulsuk

21 January 2014

พระพุทธรูปคอหัก

บ่ายวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งรถเข็ญออกตรวจบริเวณวัด พบชาย 2-3 คนกำลังก้มๆเงยๆ อยู่โคนต้นไม้หลังอุโบสถ

หลวงปู่: ทำอะไร โยม

โยม: พวกกระผมเอาพระพุทธรูปมาปล่อย(ทิ้ง)ครับ

หลวงปู่: ทำไมเอาพระพุทธรูปมาปล่อยซะหล่ะ

โยม: พระพุทธรูปสององค์นี้คอหักครับ พ่อว่าไม่ดีเลยให้เอามาปล่อย

หลวงปู่: อ้อ พระพุทธรูปคอหักไม่ดี เลยเอามาปล่อยวัด อะไรไม่ดีก็เอามาปล่อยวัด หมากัดเป็ดกัดไก่ ไก่ 4 ขา หมา 4 หู ต้นไม้ประหลาด ลูกบอกไม่ได้สอนไม่เอาก็ให้มาบวช แต่เวลาขอของดีต้องมาขอกับพระ มาหาพระมาหาของดี ที่ไม่ดีก็เอามาทิ้งวัด มาทิ้งให้เป็นภาระพระ พระพุทธรูปคอหักคุณว่าไม่ดี เพราะคุณเข้าใจว่าไม่ดี ตอนไปบูชามาเสียเงินเสียทอง เอามากราบไว้บูชา ถือว่าดีว่าขลัง พอตกแตกคอหักคุณก็ว่าเป็นของอัปมงคล คนเราอยู่ด้วยกันรักกันชอบกัน พออีกคนตายหมดลมหายใจก็กลัวกัน สมมุติกันว่าเป็นผีก็พาลกลัวกันซะอีก คุณเอ้ย ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่ก้อนอิฐก้อนดินดอกนะ ความเป็นคนก็ไม่ได้อยู่กับร่างกายสังขารดอกนะ ความเป็นพระอยู่ที่คุณงามความดีของพระองค์ ความเป็นคนก็อยู่ที่คุณงามความดีของเขา คุณสมมติว่าพระคอหักคือพระตายก็กลัวพระคอหัก คุณสมมติว่าคนหมดลมหายใจก็เป็นผีก็กลัวผี ถ้าความเป็นพระอยู่ที่ใจเรา พระนั้นถึงจะแตกจะหักก็น่ากราบน่าไหว้ ถ้าความเป็นคนอยู่ที่ความรักความผูกพันธ์ อยู่ในความดีของกันและกัน ถึงเขาหมดลมก็ยังน่าคิดถึงน่านับถือ ไม่น่ากลัว แต่คุณคิดว่าเมื่อเสกพระพุทธรูปแล้วท่านมีชีวิต มีความขลัง พอท่านคอหักก็คือท่านตาย ท่านหมดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ให้เข้าใจเสียใหม่ พระก็คือพระจะคอหักจะแตกจะบิ่นความเป็นพระก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะพระก็คือพระ ความดีเป็นพระ ความที่พระองค์ทรงสั่งทรงสอนเป็นพระ ไม่ใช่ความเป็นอิฐเป็นดินเป็นพระ ถ้ามีความเชื่อความศรัทธาอย่างนี้ พระจะแตกจะหักเราก็ยังเก็บไว้ได้ ยังกราบได้ เข้าใจนะ

โยม: แล้วจะให้พวกผมทำอย่างกับพระพุทธรูปคอหักนี้ครับ

หลวงปู่: ที่บ้านมีกาวไหม มีก็ทาติดให้เหมือนเดิมซะ

10 January 2014

อย่าลืมพระราชดำรัส

หากขออนุญาตหยิบยกพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เคยตรัสไว้ในในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512 ความว่า
ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
ซึ่งทุกคนที่เคยฟังวิทยุ-โทรทัศน์ตลอดช่วงอายุที่ผ่านมาแล้วก็ต้องเคยฟังทุกคน
Thailand red shirt clash

ผ่านมาแล้วเกือบ 50 ปีจากวันที่ในหลวงได้ดำรัสไว้ แต่สิ่งที่เป็นวังวนในสังคมไทยคือความวุ่นวายที่เกิดจากการเมืองมาโดยตลอด หากเดินไปถามถึงสาเหตุกับลุงป้าน้าอาที่ใส่เสื้อคนละสี ทุกคนก็จะมีเหตุเพื่อตอบต้นเหตุของความวุ่นวายเหล่านั้นซึ่งก็จะเป็นเหตุุผลที่สนับสนุนในฝ่ายของตนไปคนละแบบ

หากแต่ผมเองก็มีเหตุผลในส่วนตัวเช่นเดียวกัน คือความหมายจากพระบรมราโชวาท ต้นเหตุแห่งความวุ่นวายและแปลงร่างกลายเป็นเรื่องไม่ดีนั้นก็เกิดจากคนทั้งสิ้น เมื่อใดที่เรามั่นใจว่าเราเป็นคนดีแต่เป็นผู้สร้างความเดือดร้อนแก่สังคมเพื่อวัตถุประสงค์ที่เราสามารถยกเหตุผลว่ามันดีนั้นก็ขัดกับจุดประสงค์ของพระบรมราโชวาทเสียแล้ว

ในการเรียกร้องทางการเมือง แม้การมีเป้าหมายต่อสังคมในทางที่ดี การเรียกร้องสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ แต่บางทีเราลืมไปหรือเปล่าว่าจุดใดที่เรียกว่าเกิดความเดือนร้อนวุ่นวาย เราลืมคิดไปหรือเปล่าว่ามีกระบวนการใดที่สามารถทำได้ตามแนวทางที่ระบบกฎหมายมีไว้ให้ หรือเราลืมรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกันอย่างเข้าใจจนเป็นการปิดกั้นทางออก แถมยังยัดเยียดแนวคิดเฉพาะของตนเองไปให้ผู้อื่นแต่ฝ่ายเดียว หรือพวกเราทุกๆคนได้ให้ความรู้ส่งต่อกันเพื่อส่งเสริมคนที่ดีได้เข้ามาปกครองบ้านเมืองอย่างมีวิจารณาญาณมากเพียงพอแล้วหรือยัง

เพราะการยอมทำผิดกฎหมายเพื่อเรียกร้องสิทธิ เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งมาโดยตลอด และพระบรมราโชวาทที่เราเคยรับฟังแต่แค่อาจจะลืมเลือนไปบ้างวลีนี้ พวกเราจะเอากลับมาเตือนใจตนเองกันอีกครั้งกันดีไหม

Written by Tiwakorn Laophulsuk

03 January 2014

กลอนกรุงเทพฯ by แอดเบลล์

Bangkok Traffic
Bangkok Traffic by Min Thu
โอ้ถนน เมืองไทย น่าสับสน
เพราะว่าคน ไทยนั้น น่าสงสัย
บางคนขับ เหมือนรีบ จะต้องไป
เมียคลอดลูก เพื่อนเป็นไข้ เฮชไอวี

รถจะแพง แค่ไหน ช่างแม่งมัน
เพราะเลี้ยวกัน ไม่เคย เปิดไฟสี
กูไม่รู้ กูขับอยู่ เลนส์กูดี
มึงมาแทรก แบบนี้ กูเกือบตาย

มาถึงเรื่อง ขับช้า น่าตบสุด
เสือกไปหยุด เลนสาม กูไปสาย
มึงขับช้า ขนาดนี้ ยังไม่วาย
จะเกรงใจ คนจะสาย กันบ้างเลย

ส่วนรถตู้ ชอบจอด แช่อยู่นั่น
โชเฟอร์นั้น ทำมึน แช่ป้ายเฉย
มึงก็รอ ผู้โดยสาร นานจังเลย
แต่ไม่เคย คิดถึงใจ คนที่รอ

แท็กซี่ไทย เรียกทีไร รีบส่งรถ
มึงจะกด ป้ายว่าง ทำไมหรอ
แต่ถ้าเป็น ฝรั่ง ไม่ต้องรอ
รีบไปส่ง ไม่รีรอ บอกมาเลย

เรื่องบางเรื่อง นั้นน่า เจ็บใจสุด
ผู้บริสุทธิ์ ขับรถเขา มาเฉยเฉย
จ่าเดินมา บอกว่า มานี่เลย
อย่าทำเฉย ใบขับขี่ เอามาชม

หวัดดีจ่า รถผมนั้น ไม่มีผิด
จ่าบอกนิด นึงหน่า ค่าขนม
ถือซะว่า เป็นคนไทย ช่วยดูชม
ช่วยสะสม ยอดให้จ่า เลี้ยงครอบครัว

รถเมล์ไทย ไปไกล รถแข่งโลก
สายแปดโยก พวงมาลัย พาลปวดหัว
ขึ้นที่ไร คิดถึงลูก และครอบครัว
เพราะว่ากลัว มึงซิ่ง จนดิ้นเอย ...

สำเนาบทความจาก Facebook  credits by แอดเบลล์

20 December 2013

'The Tower' the Hollywood remix of Asia

The Tower (Korean) movie poster
The Tower (Korean)
movie poster
Just the chance after watching 'The Tower' that originate Korea films. First look on trailers is quite impress that Korea not even just country with full far develop in high-tech industry. But nowadays seems their movie industry is the next step leap forward more than Thai (it's me here) far to follow.

I just got DVD from rental shops in few weeks ago in 2013. The movies is launch since 2012 on Christmas day, that make a story plot were set in Christmas Eve but less snow. That's OK for the snow because they claim of less snowing according to the forecast news in first place.

The CG is looking grand and realistic of the building. I just wonder that the Asia continent has really good visual graphic working in Hollywood and now they really get back to home now.

But the movie plot is quite surprise due to we're not used to have multiple main character in Asia movies. My googling research found that the main plot is came from Hollywood film of 'The Towering Inferno' it's really the same after reading the plot.

What remix? If you watching in each major scene you may recognize these ...

06 December 2013

Blog ที่หนึ่งร้อย : Word from Authors

ถ้า blog นี้สะสมบทเรื่องที่เขียนเป็น Diary มาตลอดชีวิตการใช้ internet นี่ก็แค่ผ่านหลักกิโลที่ 100 เอง แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าเรื่องไหนรู้ไม่ค่อยเยอะตัวเราเองก็คงไม่กล้าลงมือเขียน ส่วนอันไหนที่เขียนออกไปแล้วก็มีถูกบ้างผิดบ้าง Outdate บ้าง ซึ่งตอนเขียนก็ได้พยายามเทียบแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือแล้วก่อนปล่อยออกไป

ตั้งในว่าจะเขียนให้ได้ 1500 เรื่อง เอาให้เทียบกับท่านผู้นำที่เส้นรุ้ง 45 องศาให้ได้
แต่เอ๊ะ ... ท่านผู้นั้นเขียนหนังสือ 1500 เล่มแฮะ สงสัยของแบบนี้จะตามยาก

Tiwakorn Laophulsuk

03 December 2013

การเมืองของประชาชน

เนื่องจากเราเป็นคนที่เกิดหลังทีวีจอขาวดำนิดเดียว สิ่งที่เห็นได้ตั้งแต่เด็กเลยก็คือพ่อแม่ที่นั่งเฝ้าหน้าจอทีวี และเมื่อใดที่เกิดปัญหาจอดับล่ะก็สิ่งที่ได้ยินตามมาคือ "ปฏิวัติ!! ปฏิวัติ!!"

November 2013 Protest
November 2013 Protest [Image Wikipedia]
ข่าวการเมืองจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมาสำหรับเด็กๆ เพราะแย่งเวลาการดูการ์ตูน และการสัมภาษณ์นักการเมืองหน้าเดิมๆซ้ำทุกวัน เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องพูดไปเรื่อยๆ

แต่หลังจากนั้นจนแก่มา 30 ปี การเมืองก็ยิ่งเป็นเรื่องโคตรน่าเบื่อ เพราะสูตรสำเร็จการเมืองไทยของผมเป็นได้แค่นี้

1) ฝ่ายรัฐบาล ก็เอาเสนออย่างเดียว เมื่อยกมือเพื่อลงมติก็ชนะทุกครั้ง
2) ฝ่ายค้าน ที่ค้านอย่างเดียว แล้วจะไม่พอใจเสมอที่ยกมือไม่ชนะ
3) รัฐบาลที่ชอบเป็นต้นเหตุของการออกนโยบายสร้างเงื่อนไขในการชุมนุมคัดค้าน
4) กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ที่ขยายผลการชุมนุมเพื่อล้มล้างรัฐบาลเสมอ
5) การประท้วงที่สำเร็จ คือ ได้รัฐประหาร, และการนองเลือด
6) การเลือกตั้งที่ผู้ชนะจะโดนกล่าวหาว่าซื้อเสียงเสมอ
7) ฝ่ายใดที่อ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า ย่อมได้เปรียบ
8) ทักษะทางวิชาการไม่เกี่ยวกับอาชีพนักการเมือง Skill การพูดเท่านั้นที่สำคัญ
9) ระบบทุนนิยมเป็นองค์ประกอบของปัญหา ตั้งแต่การเลือกตั้งจนไปถึงการโค่นล้มเสมอ
10) เราสามารถแปลความหมายของประชาธิปไตยไปในแนวทางที่ตนเองได้เปรียบ

ตราบใดที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองยังขาดจิตสำนึกต่อส่วนรวมและเรายังเลือกตั้งเข้าไป ข้อเรียกร้องจากการชุมนุมแบบสงบสันติไม่สามารถได้ยินเสียงตอบรับจากผูู้มีอำนาจตอนนั้นได้ ก็จะเป็นอย่างงี้ต่อไปอีก 30 ปี เพราะเรื่องการเมืองไม่ใช่การที่คนเพียงคนเดียวจะเข้าไปแก้ไขได้ แต่มันเกิดจากวิธีการคิดของคนส่วนใหญ่เท่านั้นที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงได้

Red Shirt Protest
Red Shirt Protest [Image Huffpost]
ไม่ต้องบอกให้สังคมและการเมืองเกิดการปฏิรูป ลองย้อนมองดูประชาชนด้วยกันเองก่อนว่าปฏิรูปความคิดตนเองให้ลอยตัวจากการเลือกตั้งเพราะทุนนิยมตั้งแต่วันเลือกตั้งได้หรือยัง

Written by Tiwakorn Laophulsuk