06 July 2013

ทุกข์ของเจ้าหนี้

"ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" น่าจะเป็นวลีที่ติดหูรองลงมาจากเรื่องสุขภาพ เพราะเมื่อเราอายุ 25 - 30 ขึ้นไป ก็คงต้องมีงานทำ มีครอบครัวกันแล้ว ต่างคนก็ต่างมีหนี้ต่างวาระกันไป ทั้ง บ้าน, คอนโด, รถยนต์ คงไม่มีใครหนีความเป็นลูกหนี้ได้ แต่สิ่งที่สบายอยู่อย่างคือเราไม่ต้องเก็บเงินให้ได้ทั้งหมดเสียก่อน เพียงแค่หยิบยืมเอาก็ช่วยให้เรามีสิ่งต่างๆมากมาย

การ์ตูนโดนใจ จาก page พูดไม่คิด
เรื่องที่อยากเล่า กลับเป็นความรู้สึกของคนที่เป็นเจ้าหนี้ เพราะตัวเราเองตั้งแต่พอมีเงินเก็บก็เคยให้ความช่วยเหลือคนอื่นในการให้เขายืมบ้างโดยไม่เจตนาคิดดอกเบี้ยสูงๆ บ้างก็ให้ 9% ต่อปี หรือถ้าเพื่อนฝูงที่มั่นและใกล้ชิดกันก็ให้ต่ำจริงๆเพียง 3% ต่อปีก็มี

ถ้าคนที่หมดสิ้น credit จริงๆ แล้วต้องวิ่งไปยืมจากนอกระบบ ทุกวันนี้เจ้าหนี้นอกระบบให้ดอกร้อยละ 20 ต่อเดือน (เท่ากับ 240% ต่อปี) ถ้าขาดส่งก็จะโดนแบบโหดกันบ้าง ซึ่งคนที่เราเคยให้ยืมเงินไปก็เคยตกอยู่ในสภาพนี้

หรือบางคนก็เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่เกือบสองแสนบาท ต้องจ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท บวกกับดอกเบี้ยอีก 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายความว่าต้องหาเงินจ่ายกันไปเดือนละ 5,000 โดยที่หนี้แทบจะไม่ลดเลย
คนที่เราได้ช่วยไปและได้คืนตรงเวลา ตอนนี้ชีวิตก็มีความสุข ตั้งหลักตั้งตัวได้เราก็ดีใจ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นหนี้ซ้ำซ้อน มีหนี้แล้วก็ไปมีอีกแบบนี้ก็ลำบากใจ

สถิติส่วนตัว จากการให้กู้ยืมตั้งแต่เริ่มคนแรกจนปัจจุบัน มีทั้งหมด 21 ครั้ง ลองดูซิว่าเป็นแบบไหน
  • ลูกหนี้ที่ได้คืนตรงเวลา 13 ราย
  • ลูกหนี้ที่คืนบ้าง ไม่คืนบ้าง เลื่อนบ้าง เปลี่ยนวันบ้าง แล้วแต่อารมณ์ 5 ราย
  • ลูกหนี้ที่หนีไปเลย 3 ราย
หากกลับมาดูสถิติที่ผ่านมาแล้วถือว่า การให้คนอื่นกู้ของเรานั้นยังโชคดี ที่ส่วนใหญ่คืนเงินกันได้ดี หรือบางส่วนแม้จะต้องทวงกันถี่ยิบ อีกทั้งจะเห็นว่าเกือบครึ่งนึงของผู้ที่กู้เงินไปจะมีปัญหา คงเป็นบทเรียนสอนไว้ว่าถ้าไม่จำเป็นหรือถึงแก่ชีวิตก็อย่าให้คนอื่นกู้เลย เว้นแต่ถ้าจะหากินกับดอกเบี้ยจากคนกู้ยืมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็เลิกปล่อยกู้แล้วเนื่องจากเราก็เป็นลูกหนี้ธนาคารซะแล้ว

ถ้าจะให้ดี พยายามขจัดความโลภจากตัวเรา เพราะ "การไม่มีลูกหนี้ ก็เป็นลาภอันประเสริฐเหมือนกัน"

Written by Tiwakorn Laophulsuk

No comments:

Post a Comment

Give a comment ...