เช็ค หรือตราสารเช็คเป็นเอกสารประเภทหนึ่งที่เป็นไปตามข้อกำหนด พรบ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 เพื่อใช้ชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย
ประโยชน์ของการใช้เช็ค ก็มีข้อดีเหมือนการโอนเงินผ่านธนาคารนั่นแหละ คือการชำระหรือการโยกย้ายเงินจำนวนมากจะมีความปลอดภัยมาก และไม่เสี่ยงต่อความเสียหายต่อปัจจัยภายนอก เช่น โดนปล้น, ทำเงินหาย, เอกสารถูกไฟไหม้ สำหรับคนที่มีธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดจำนวนมากๆ อาจจะ 5 แสนบาทขึ้นไป ควรศึกษาการใช้ประโยชน์จากตราสารประเภทนี้ให้มากทั้งการเป็นผู้รับ หรือเป็นผู้ใช้งานก็ตาม
เพื่อความรวดเร็วแบบย่นย่อ และเหมาะกับคนใช้งาน เช็คแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1) เช็คสั่งจ่าย
เป็นเช็คของบริษัท หรือจากผู้ประกอบธุรกิจ การจะได้เงินจากเช็คนี้เจ้าของเช็คจะต้องมีเงินเพียงพอในการจ่าย หากมีเงินไม่พอ เช็คประเภทนี้ก็จะเกิดสภาวะ "เช็คเด้ง" ซึ่งธนาคารจะเรียกให้เราไปรับเอกสารคืนพร้อมข้อมูลว่าตัดเช็คไม่ได้ เอาไปฟ้องร้องกันต่อ
สำหรับใครที่อยากมีเช็คสั่งจ่าย ต้องทำตัวเองให้เป็นผู้ประกอบการโดยมีทะเบียนพานิชย์ หรือ ห้างหุ้นส่วนฯ หรือ บริษัทฯ จากนั้นหอบเอกสารทะเบียนบริษัทฯต่างๆไปธนาคารพร้อมพูดว่า "ขอเปิดบัญชีเช็ค" และก็ทำตามพิธีการอีกร้อยแปด ก็จะได้สมุดเช็คมาใช้งานเชิ้บๆ
เช็คประเภทนี้ ดูง่ายๆคือ ตัวเช็คจะมีชื่อบริษัท (ที่ไม่ใช่ชื่อธนาคาร) กำกับอยู่ จะเป็นตัวเขียนลายมือหรือตัวพิมพ์ก็ถือว่าเป็นเช็คสั่งจ่าย
2) เช็คเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค
เป็นเช็คของธนาคาร โดยไม่มีชื่อบริษัทอื่นใด และจะถูกออกให้โดยธนาคาร เช็คประเภทนี้ปลอดภัยมากเพราะมีเงินจ่ายแน่นอน ซึ่งถือเป็นตัวแทนของเกินก้อนหนึ่งแล้วไปแลกเป็นเช็คออกมา
ใครอยากได้เช็คเงินสด โดยจะเป็นเป็นใครก็ได้ โดยเดินไปธนาคารบอกว่า "ขอซื้อแคชเชียร์เช็ค" จากนั้นก็บอกจำนวนเงินที่อยากซื้อ บอกชื่อบัญชีผู้รับเงิน บวกค่าเช็ค 20 บาท
แคชเชียร์เช็คข้ามเขต เป็นการทำเช็คอีกแบบนึง โดยภาษาธนาคารจะเรียกว่า Draft เอาเป็นว่าถ้าข้ามเขตธนาคารเวลาจะซื้อแคชเชียร์เช็คก็ควรแจ้งธนาคารด้วยว่าเราจะส่งไปขึ้นเงินที่ไหน
3) เช็คของขวัญ
เป็นเช็คเงินสดกรณีเดียวกับข้อ 2) แต่มีเงื่อนไขบางอย่างจากธนาคาร เช่น จำกัดจำนวนวงเงินในการซื้อเช็ค อาจจะสูงสุดแค่ไม่เกิน 50,000 บาท หรืออาจจะมีของแจกของแถมเพิ่มเติมในการออกเช็ค ส่วนใหญ่ไม่ได้เอามาค้าขายกัน เพราะคงไม่มีใครซื้อเช็คของขวัญแล้วระบุชื่อผู้รับเป็นชื่อบริษัทซักเท่าไหร่
สรุปแล้วผู้ประกอบกิจการต้องมีกลไกการตรวจสอบเรื่องเช็คให้เป็นปกติ หากเป็นเช็คสั่งจ่ายควรขอคำยืนยันด้วยหนังสือรับรองบริษัท หรือโทรสอบถามธนาคารต้นทางของเช็คก็ได้ หรือรับชำระด้วยเช็คเงินสดจะเป็นการดีที่สุด
Written by Tiwakorn Laophulsuk
No comments:
Post a Comment
Give a comment ...