ประหยัดไฟ ช่วยไม่ได้ถ้าไม่ทำ Critical Point ก่อน

Campaign การรณรงค์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่ที่มองเห็นส่วนมากแล้วจะเน้นให้มีการปิดไฟดวงที่ไม่ใช้งาน ซึ่งในแต่ละบ้านและสำนักงานก็มีการประยุกต์ปฏิบัติแบบใดก็ว่ากันไปตามกฎระเบียบแต่ละที่

ถ้ามองย้อนกลับมาที่บ้านแบบเราๆท่านๆแล้ว การประหยัดไฟอาจจะคิดยุบยิบกันไปถึงค่าไฟแฝงจากการเสียบปลั๊ก TV, วิทยุ, หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถปิดในสถานะ Stand by ได้ แม้จะพยายามคิดเล็กคิดน้อยซักเท่าไหร่แต่ก็ดูเหมือนค่าไฟมันจะไม่ลดซักที

เป็นเรื่องที่ดีในโครงการที่เน้นการประหยัดไฟ เพราะเป็นการสร้างวัฒนธรรมหรือปรับอุปนิสับในการบริโภคในการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ แต่ผู้นำเสนอไม่ได้เน้นให้เข้าใจในเรื่องของกำลังไฟฟ้า ถ้าอยากจะให้เข้าใจง่ายลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

อุปกรณ์ที่ 1) เสียบปลั๊ก TV ทิ้งไว้แบบ Stand by ใช้ไฟฟ้า 0.5 Watt
อุปกรณ์ที่ 2) เปิดหลอดตะเกียบ 7 Watt
อุปกรณ์ที่ 3) เปิดเครื่องปรับอากาศ 2700 Watt

ถ้าเราไปเน้นการปิดไฟและถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือปิดอุปกรณ์ที่ 1) และ 2) จะทำการประหยัดไฟฟ้าได้ 7.5 Watt แต่ผลที่ได้จะแตกต่างกันมากกับการปิดเครื่องปรับอากาศเพราะถ้าปิดเครื่องปรับอากาศเพียง 1 ชั่วโมง เราจะสามารถเปิดหลอดไฟทิ้งไว้ได้ 360 ชั่วโมงจึงจะใช้กำลังไฟฟ้าในจำนวนที่เท่ากัน

เรื่องที่ควรกังวลคือควรจะปรับเปลี่ยนหรือลดการใช้แอร์บ้าน, เตารีด, หม้อหุงข้าว, เตาไฟฟ้า ด้วยวิธีการอย่างไร จะดีกว่าไปคิดเล็กคิดน้อยในการปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ เพราะอุปกรณ์ร้อนๆ ขนาดใหญ่ๆเท่านั้นที่มีผลต่อการใช้พลังงาน เพราะการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ป้องกันแสง, การระบายอากาศด้วยวิธีธรรมชาติ, การควบคุมแสงเพื่อใช้ประโยชน์ในตอนกลางวัน

เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าใหญ่ๆเท่านั้นคือจุดวิกฤติของปริมาณการใช้ไฟฟ้า เริ่มที่เรื่องใหญ่ก่อนแล้วจึงค่อยไปแก้เรื่องเล็กต่อไป

Written by Tiwakorn Laophulsuk