ประเมินคนจนจากบัญชีออมทรัพย์ คิดง่ายไปมั้ง

ถ้าใครเคยผ่านตาคงเคยเห็นตารางหนึ่ง ที่บอกถึงจำนวนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารในประเทศไทย คำตอบของข้อมูลการนำเสนอนี้ระบุว่า 89% ของคนไทยมียอดเงินในบัญชีน้อยกว่า 50,000 บาท ซึ่งผู้นำเสนอพยายามสื่อให้เห็นว่าคนไทยมัน "จนว่ะ"

แผนผังอธิบายคนไทยมีเงินเท่าใด
โดยอ้างอิงจากเงินคงเหลือในบัญชีออมทรัพย์

คิดเยอะๆ กับข้อมูลนำเสนอ เมื่อเรารู้กันว่าวิธีการบริหารจัดการเงินยังมีอีกหลากหลายวิธีแทนการยัดเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งเงินฝากประจำ, กองทุนรวม, หุ้น ซึ่งข้อมูลการนำเสนอไม่ได้เอามาแยกแยะให้ดูด้วย

อีกกระบวนการหนึ่งเมื่อเทียบกับตัวเราเอง เมื่อเปิดบัญชีออมทรัพย์ไว้ 5 ธนาคาร จะเป็นการง่ายกว่าไหมถ้าเราจะเอาเงินที่กระจายตามธนาคารต่างๆ มารวมไว้บนบัญชีที่เราสะดวก ซึ่งทำให้บัญชี 4 ใน 5 รายการของตัวเราเองมีจำนวนเงินฝากน้อยกว่า 50,000 บาท ซึ่งทำให้ตัวเลขก็ไปเข้าไปเพิ่มกในกลุ่มสถิติความจนอีก

หากคุณมีเงิน 500 ล้านบาทแล้วใส่ไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ใน 1 ปีจะได้ดอกเบี้ย 3.2 ล้านบาทหลังหักภาษีแล้ว แต่ถ้าหากเอาไปใส่ไว้ในเงินฝากประจำ 1 ปีจะทำให้เราได้ดอกเบี้ย 10.4 ล้านบาทหลังหักภาษี ซึ่งได้เยอะขึ้นกว่าเดิมเกือบ 7 ล้านบาท พอรู้แล้วแน่ใจหรือเปล่าว่าจะทิ้งเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ต่อไป แต่นั่นเป็นเพราะผู้ที่เก็บเงินในบัญชีออมทรัพย์มักจะเป็นนิติบุคคลทั้งนั้นเพราะการโยกย้ายเงินไม่สะดวก ดังนั้นไม่น่าจะมีเศรษฐีในกลุ่มนี้แต่อย่างใด

ต้องขออภัยที่มองย้อนแย้ง ผมกลับมองว่า 89% ของผู้ที่ถือบัญชีออมทรัพย์ แม้ว่าจะมีผู้ที่จนจริงๆอยู่บ้างก็ตาม แต่กลุ่มนี้แหละคือผู้ที่บริหารจัดการเงินที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากลุ่ม 11% ที่เหลือด้วยซ้ำไป

Written by Tiwakorn Laophulsuk