ข้อความบางส่วนจากการตามทวงหนี้ผ่าน Facebook ของบริษัทฯ |
การทวงหนี้ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร และผู้ทวงหนี้ก็มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าต้องการอะไร ปัญหาของลูกหนี้ที่เจอคือ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" หรืออาจจะ "มี หนี แต่ไม่จ่าย" แต่ที่ต้องรู้เอาไว้ชัดๆ ถ้าการกู้ยืมใช้วิธีการบอกปากเปล่ากันนั้นให้รู้ไปเลยว่า พูดลมก็ได้ลม
หลังจากที่หนุ่มน้อยนายนี้มาระเบิดลงทั้ง e-mail และสื่อออนไลน์ซักพัก อ้างสิทธิ์ร้อยแปด (แต่มันไม่เคารพสิทธิของเราแฮะ) ทางบริษัทเราจึงได้ให้สติไปและชี้แจงว่า ถ้าต้องการจะให้เราติดตามนั้น คุณจะต้องมีอะไรบ้าง
- หนังสือสัญญาการกู้ยืมเงิน หนังสือสัญญาค้ำประกัน แต่ถ้าไม่มีก็ ...
- หนังสือแจ้งความ หรือการร้องทุกข์ การแจ้งเหตุการละเมิดสิทธิ์ ที่แสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจ
- ถ้าไม่มีก็บันทึกประจำวันอะไรก็ได้ซักอย่าง ที่เจ้าหน้าที่เขาะบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
- หลักฐานความเชื่อมโยงทางธุรกรรมต่างๆ ระหว่างตัวเราและผู้กู้ยืม ให้ถูกต้อง เชื่อมโยง และเชื่อถือได้
- ถ้าไม่มีอะไรซักอย่าง ก็ทำหนังสือร้องเรียน หรือหนังสือแสดงความจำนงค์เพื่อจะขอความร่วมมือเพื่อให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาส่งไปที่บริษัทนั้น เขียนให้มีตรรกะหน่อย บางทีอาจจะได้รับการพิจารณา
- ระลึกไว้ว่า คดีกลับเข้าตัวเองแน่ๆ ถ้าใช้การข่มขู่คุกคามลูกหนี้หรือบริษัท และมันจะไม่มีผลอะไรเลย นอกจากเป็นหลักฐานเข้าตัวเองไปเรื่อย
สิ่งที่ "บริษัท"ต้องประกาศให้ชัดเจน คือ
- การไม่เปิดเผยข้อมูลพนักงาน ถ้าจะเปิดเผยต้องตามคำสั่งศาลหรือพนักงานผู้มีอำนาจในการขอข้อมูล
- การปฏิบัติตามคำสั่งของราชการ ต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ใครโทรมาบอกก็ทำอะไรไม่ได้
- ถ้าจะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ขอให้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐก่อน
ทางที่ดีคือทำให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นดีกว่า เพราะคนจะมายืมเงินเรา เขาก็กราบเราปานเทวดาทั้งนั้นแหละ ซึ่งนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การโวยวายอย่างไรก็ไม่มีผล มาคุยกันแบบผู้เจริญแล้วมีโอกาสมากกว่านะ
Written by Tiwakorn Laophulsuk
No comments:
Post a Comment
Give a comment ...