ก่อนอื่น เราจะกล่าวได้อย่างไรว่า Internet หรือ ระบบการกระจายข่าวสารข้อมูลแบบอิสระจะก่อให้เกิดผลดีหรือผลเสีย เกิดประโยชน์หรือโทศอย่างไรก็จะต้องตอบนำไว้เลยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไปพร้อมๆกันครับ ไม่มีสิ่งใดที่จะก่อให้เกิดผลดีในทุกด้านเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งตกใจว่าทำไมผมได้กล่าวถึง Internet ในลักษณะขวานผ่าซากเช่นนี้ เหตุจะเริ่ม และผลที่จะตาม เป็นไปตามคำอธิบายดังต่อไปนี้ครับ
หากเราต้องการจะนำ Technology ที่ต้องการจะเพิ่มเติมความรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษาแล้ว ก่อนอื่นจะต้องดูก่อนว่า ระบบการเรียนการสอนของเราสนับสนุนสิ่งที่อยู่ภายใต้คำจำกัดความของ "Self study" หรือยัง การปรับปรุงการสอนให้เข้ายุคเข้าสมัยนั้นเป็นรื่องที่ต้องพึงกระทำแน่ๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบการศึกษาในประเทศไทยยังสอนในเรื่องของวิชาการที่ต้องเป็นหลักสูตรอย่างมากมายให้กับนักเรียน ผลที่ได้คือ เด็กมีความรู้มาก สามารถทำข้อสอบที่มีระดับความยากได้คะแนนดีในระดับหนึ่ง ต่อมาก็สามารถจะสอบเข้าสถาบันการศึกษาอื่นๆได้โดยไม่ยากเย็นนัก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบัน
หลายๆท่านอาจจะเคยคิดที่จะทำการปฏิรูปการศึกษาให้เลี่ยนไปเป็นการศึกษาด้วยตนเองเหมือนอย่างหลักสูตรในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ การให้นักเรียนทำกิจกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลของทางโรงเรียน อาจจะเป็นภายในสถาบันการศึกษาหรือนอกสถาบันการศึกษาก็ได้ โดยใช้เวลาครึ่งวันกับกิจกรรมเสริมความรู้ต่างๆนี้ ผลที่ได้คือ ความรู้ที่ได้รับจะได้น้อยกว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแทนที่ก็คือ เรื่องของพฤติกรรม และความสามารถในเชิงการปฏิบัติที่ล้ำหน้ากว่าประเทศไทยพอควร สิ่งที่กล่าวมานี้ทั้งหมด จะต้องเริ่มทำเสียก่อนที่จะไปพูดต่อกันในเรื่องที่สอง
ประการต่อมา (เข้าเป้าและตรงประเด็นหน่อย) ก็คือ เราต้องการให้ Technology เข้ามาช่วยไหม แล้วให้มันมาช่วยทำอะไร และควรจะทำเมื่อไหร่ เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องขบคิดกันก่อน Internet, Intranet หรือสื่อการสารสนเทศอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงจะขอกล่าวโดยรวมว่ามันเป็นเทคโนโลยีด้วยก็แล้วกัน
ต้องการ Information Technology (IT) หรือเปล่า
คำตอบคือ ต้องการ เพราะ IT เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความรู้ และความสามารถที่สูงขึ้น และก้าวทันโลกที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว การที่จะต้องให้คนทุกคนมีความรู้ในเรื่องของ IT ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น OS, Software, Hardware, Internet ทั้งหมดก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ดีแล้วก็คือ อย่างน้อยก็ให้รู้จักกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับมัน
ต้องการ Information Technology เพื่อมาช่วยทำอะไร
จะกล่าวได้ว่า คนไทยยังใช้งานในเรื่องของเทคโนโลยียังไม่คุ้มค่า (ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ) โดยเฉพาะสื่อทางด้าน IT ในกรณีนี้จะขอยกตัวอย่างของ Internet นะครับ
Internet ถ้าจะให้มาช่วยงานด้านการศึกษาแล้วนั้น ถ้ามองโดยหลักการผมบอกได้เลยว่า ประโยชน์ที่จะเกิดนั้น ยิ่งกว่าคำว่ามหาศาล เพราะทุกคนทราบดีแล้วว่า Internet เป็นแหล่งข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ และเป็นระบบที่สามารถเข้าถึงได้แทบทุกหนทุกแห่ง เป็นห้องสมุดที่ใหญ่ และใช้งานง่ายที่สุดของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ และการที่ห้องสมุดนั้นใหญ่ และเป็นสิ่งที่อิสระ แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคัดประเภทของหนังสือแต่อย่างใด ดังนั้น เราแน่ใจมากแค่ไหน ในการที่จะเอา Internet มาใช้ประโยชน์กับการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย
ขอยกกรณีตัวอย่างญาติสนิทมิตรสหายที่ไปศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ ผมสามารถบอกได้เลยว่า เขาสามารถจัดสรรทรัพยากรของ Internet ได้อย่างคุ้มค่ามาก คือ ทุกคนจำเป็นที่จะต้องหาข้อมูลจาก Internet เพื่อมาช่วยในการทำรายงาน การส่งงานโดยทาง e-mail โดยที่นักศึกษาแต่ละคนจะใช้งาน Internet อย่างเกิดประโยชน์ ได้สูงกว่าผู้ใช้ใช้ Internet ในประเทศไทย (เคยกล่าวไปแล้วในบทความเรื่อง ใช้ Internet อย่างคุ้มค่า) และถ้าเรานำมาใช้งานที่เกี่ยวกับการศึกษาจริง ผมบอกได้เลยว่า มันยังจะไม่ให้ประโยชน์อะไรกับเรามากนักในตอนนี้
คุณจะมีความรู้สึกอย่างไร ที่เด็กไทยไปหยิบเอาหนังสือโป๊มาอ่าน ตำราการทำระเบิดแสวงเครื่อง สิ่งนี้ก็ต้องกลับมาตระหนัก นักท่อง Web ทุกคน รู้แล้วว่า Web Site นั้นมีกี่ประเภท ประเภทที่ให้ความรู้และเกิดประโยชน์มีอะไร ประเภทที่สามารถไปหาเรื่องที่ผิดต่อศีลธรรมของไทยนั้นก็มี และก็รู้ด้วยว่าจะไปหาเช่นไร จะเหมาะสมแล้วหรือ ที่จะให้ระบบการศึกษา และเยาวชนไปรับรู้สิ่งที่ยังไม่เหมาะสมสิ่งนั้น หรือจะบอกว่า เราสามารถควบคุมได้ คือ ดูแลในเรื่องของการใช้งานของนักเรียน นักศึกษาตลอเวลา ผมสามารถบอกได้เลยว่า มันทำไม่ได้แน่ๆ อย่างไรเสีย มันมีทางที่จะออกนอกลู่นอกทางอย่างหาวิธีบังคับไม่ได้
ดังนั้น ควรจะเริ่มทำเมื่อไหร่
โครงการ School net เป็นโครงการที่จะให้เกิดการสอนหนังสือผ่านสายโทรศัพท์ โครงการนี้เป็นอีกมิติหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา แต่ความสำคัญ และองค์ประกอบหลักๆ เช่น การประชาสัมพันธ์ การติดตั้งสื่อการสอน การกระจายงานออกสู่ภูมิภาค และในเรื่องของค่าใช้จ่ายยังเป็นปัญหาแน่ๆ ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ถ้าจะบอกว่า เราจะใช้ Internet ได้คุ้มค่ากับระบบการศึกษาได้มากขึ้น และดูแล้ว น่าจะให้กำลังใจกับโครงการนี้มากพอตัวทีเดียว โครงการ School net ในความคิดเห็น Mr. Jing Jun เห็นว่า น่าจะเสร็จและให้ผลอย่างเป็นรูปธรรมแล้วให้เร็วกว่านี้สัก 2 ปีด้วยซ้ำ
ถ้าเช่นนั้น ก็ติด Internet เองไม่ดีกว่าหรือ คำตอบก็คือ ไม่ดี เพราะ เหตุใดจะต้องไปเปิดทางเพื่อจะให้ไปสู่สิ่งที่ไม่เหมาะสม แม้จะเป็นเพียงส่วนน้อยก็แล้วแต่ ผมบอกได้เลยว่า Internet ตอนนี้ ยังเป็นแค่ของเล่น IT ชิ้นใหม่ แม้แต่ครู อาจารย์บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าองค์ประกอบหลักมันคืออะไร ถ้าเห็นแค่ว่า Internet มันเป็นสิ่งที่บอกถึงความก้าวหน้ากับสถาบันการศึกษา แต่ไม่รู้ว่า มันสามารถทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดอย่างไร ถึงแม้จะมีไปก็เหมือนไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้มากไปกว่าการที่ไม่มีแหละครับ
กล่าวโดยสรุปก็คือ Internet และ Technology นั้น สามารถที่จะทำให้เกิดประโยชน์ได้สูง แต่ด้วยการที่มีบุคคลที่จะให้คำแนะนำ และให้ความรู้ถึงวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นยังมีจำกัด และไม่เป็นที่รับประกันว่า Internet นั้นจะนำผลดีหรือผลเสียมาให้ในระยะเวลาสั้นๆ และไม่รู้ว่าถ้าจะให้ผลดีนั้น จะเป็นในเรื่องของอะไร หรือให้ประโยชน์สูงในด้านไหน (ถ้าไม่ใช่ข่าวก็เป็นเรื่องของการ Chat) ทางที่ดีก็คือ หันมาให้ความรู้กับนักเรียนและนักศึกษาว่า Internet นั้นสามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร นอกจากความสนุกเพลิดเพลิน ถ้าเราปลูกจิตสำนึกเพียงแค่เรื่องของการใช้งานได้ เราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้วล่ะครับ
Mr. Jing Jun (22/08/1999)
This articles is the parts of Netzine (1999) Archived