27 October 2015

ลาพักร้อน

ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนนี่ก็ดีอยู่อย่าง คือสามารถลาพักร้อนได้ทุกฤดูกาล และเป็นกิจกรรมที่มีตารางวันให้ทุกปี ในสำนักงานมาตรฐานสูงๆหลายแห่งบังคับให้พนักงานได้มีการลาพักร้อนด้วยซ้ำ ต่างจากเจ้าของธุรกิจที่แม้จะหาเวลาออกไปพักผ่อน งานก็ยังเดินทางตามไปได้ทุกที่

การลาพักร้อนมีความจำเป็นต่อการทำงานในหลายปัจจัย เพราะบางครั้งการใช้ช่วงเวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ การลาพักร้อนจึงเป็นการบังคับให้ระบบงานที่มีผลต่อตัวพนักงานได้หยุดลงชั่วคราว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นจะเป็นโอกาสที่จะปรับมุมมองของผู้ที่หยุดลาพักร้อนใหม่ และสร้างความต้องการที่จะตอบสนองต่อการทำงานใหม่ได้ดีขึ้นหลังจากกลับมาทำงาน

หากใครเคยย้ายที่ทำงานและมีการลาออกจากงาน อาจจะเคยสังเกตุเห็นตัวเองตอนไปทำงานที่ใหม่ว่า รู้สึกกระตือรือร้น อยากหางาน อยากเริ่มทำงาน หรือรีบหางานเพื่อให้ได้เงิน เพราะในช่วงเวลาเตะฝุ่นนั่นคือช่วงจังหวะที่ได้หยุดงานและได้ปลดปล่อยความกดดันจากที่ทำงานเดิมไป ดังนั้น หากใครสามารถประยุกต์ให้ช่วงวันลาพักร้อนเป็นการเปิดโอกาสให้สมองได้พักเหมือนการลาออก หรือใครก็ยอมหยุดงานแบบไม่ได้รับค่าจ้างแทนการลาพักร้อนน่าจะแสวงหาการพักแบบนี้ให้ได้เต็มที่

ผู้ประกอบการ ก็ควรหาโอกาสให้พนักงานคนขยันได้ลองลาพักร้อนบ้าง เพื่อเป็นการทดสอบ Share load ของระบบงาน และความทนทานของระบบงานที่พนักงานคนนั้นทำอยู่ เพื่อได้สังเกตุเพื่อนร่วมงานหรือพฤติกรรมของพนักงานคนอื่นๆว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากจะมองไปในมุมของการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ก็อาจจะให้บริบทแบบนี้ก็ได้


การหยุดพักร้อน เป็นโอกาสของตัวเราเองที่จะมีโอกาสได้พิจารณา Work load, สมดุลของชีวิตและงาน, ความคุ้มค่าของตัวเราต่อการทำงาน, การได้มีโอกาสมององค์กรอีกมุมหนึ่งในระหว่างที่เราหยุดงาน เพราะการได้หยุดบ้างซักรอบเป็นจังหวะที่ดีในการพัฒนาตนเองไปสู่ขั้นถัดไปเสมอ

และการหยุดพักร้อน ก็เป็นทางเลือกในการหนี Drama เรื่องร้อนๆ ที่ไม่ใช่เป็นแค่เพียงอากาศที่ร้อนเพียงอย่างเดียวได้อีกเหมือนกัน

ปีนี้ คุณใช้วันลาพักร้อนได้คุ้มค่าต่อชีวิตแล้วหรือยัง

Written by Tiwakorn Laophulsuk

No comments:

Post a Comment

Give a comment ...