ด้วยเกรงว่าไป Post กลางวง เดี๋ยวจะทำให้เสียน้ำใจเฉยๆ จึงแอบมาให้แนวคิดผ่าน Blog เอาไว้ในแง่มุมของมนุษย์เงินเดือนทาง IT ว่าอะไรเป็นแนวคิดสำหรับการทำงานที่จะทำให้ตัวเราโตขึ้น ทั้งเงินเดือนและวุฒิภาวะการทำงาน
พิจารณาหัวหน้างาน เป็นอย่างแรกก่อนเลย ว่าหัวหน้างานของเรามีความเชี่ยวชาญหรือเข้าใจกลไกทาง Business ด้าน IT หรือไม่ แม้ว่าบริษัทฯ จะไม่ได้เป็นผู้ประกอบการด้าน IT แต่ผู้ที่จะอยู่ในสายงานที่ควบคุมบริหารจัดการด้าน IT จะต้องมีความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ ICT และเข้าใจคนทำงานด้าน IT ให้ได้ หากข้อนี้สอบไม่ผ่าน เราจะทำดีให้ตายแค่ไหนเขาอาจจะมองไม่เห็นความสำคัญก็ได้ ทางเลือกแรกควรเป็นการชี้แจงหรือ update เนื้องานให้เขาเข้าใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ (สอนหัวหน้า) แต่ถ้าในระยะหนึ่งหากหัวหน้างานไม่สนใจแล้วก็ป่วยการ การเปลี่ยนงานเป็นทางเลือกที่ถูกแล้ว
พิจารณาตัวเอง ว่า เราเองเป็นผู้ที่เอาใจใส่ต่อชิ้นงานมากแค่ไหน เป็นคนที่ช่วยเหลืองานให้ทีมเกิดความคล่องตัวในการทำให้โครงการ หรือ Assignment เสร็จสิ้นลงอย่างมีคุณภาพหรือไม่ หากเราเป็นคนแบบว่า "หัวหน้ายังไม่บอกให้ทำ" แล้วไม่ยอมคิดว่าที่จะลองไปเริ่มทำดู ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หัวหน้าหรือทีมจะไม่เห็นความสำคัญของการมีเราอยู่ และก็รอเวลาให้เราเบื่อแล้วก็เดินออกไปจากบริษัทเอง
ตั้งคำถามให้เป็น เพราะคำถามที่ดีมักจะมีค่ามากกว่าคำตอบที่ดี การถามคำถามจะเป็นตัวช่วยให้คนที่อยู่มาก่อนทราบได้ว่าเรามีกระบวนการคิดในเนื้องานที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ อีกทั้งช่วยให้เราได้แนวทางในการทำงานให้สำเร็จเร็วขึ้นกว่าการไปนั่งงมหาขั้นตอนหรือลำดับการทำงานเอง อีกทั้งคำถามยังช่วยให้คนอื่นได้รู้ว่าตอนนี้เรารับรู้และแก้ปัญหาอะไรอยู่ได้อีกด้วย
เข้าใจทิศทางธุรกิจ เพราะงาน IT ต้องช่วยสนับสนุน Business และการทำงานต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เพื่องานกราฟฟิกที่ต้องมีประสิทธิภาพสูง, การออกแบบที่เก็บข้อมูลไฟล์ให้กับแผนกบัญชี, หรือรู้ว่า ตอนนี้บริษัทกำลังต้องการเพิ่มพื้นที่ทำงาน ควรจะเน้นเรื่องการจัดซื้อมากกว่าการเน้นงานซ่อมย่อยภายใน ซึ่งทำให้เรารับรู้และแยกแยะความสำคัญของงาน และเดาทางได้ว่่าตัวบริษัทต้องการจะทำเรื่องใดให้แล้วเสร็จไปก่อน
กล้าตัดสินใจซักนิดนึง ในงานที่มีประสบการณ์ในการแก้ไข หรือเคยรับทราบแนวทางปฏิบัติเบื้องต้นแล้ว หรืองานของแผนกที่ค้างอยู่แต่ไม่มีคนแก้ไจ อาจจะแค่ให้คำยืนยันต่อผู้บังคับบัญชาไปว่าเราจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้เลย โดยไม่ต้องรอให้เซ็นหนังสือสั่งการหรือต้องเรียกประชุมเพื่อบอกให้เริ่มปฏิบัติ การได้ลองตัดสินใจจะเป็นตัววัดว่าเราสามารถที่จะเติบโตต่อในสายงานนี้ได้หรือไม่
เพราะการนั่งเฉยๆรอคำสั่งกับรอวิธีทำเป็นแนวคิดที่ล้าหลังแล้ว ซึ่งนอกจากความสามารถเราไม่เดินหน้าแล้ว เงินเดือนก็เลยไม่ยอมเดินหน้าไปด้วยเช่นกัน
Tiwakorn Laophulsuk
No comments:
Post a Comment
Give a comment ...