03 December 2013

การเมืองของประชาชน

เนื่องจากเราเป็นคนที่เกิดหลังทีวีจอขาวดำนิดเดียว สิ่งที่เห็นได้ตั้งแต่เด็กเลยก็คือพ่อแม่ที่นั่งเฝ้าหน้าจอทีวี และเมื่อใดที่เกิดปัญหาจอดับล่ะก็สิ่งที่ได้ยินตามมาคือ "ปฏิวัติ!! ปฏิวัติ!!"

November 2013 Protest
November 2013 Protest [Image Wikipedia]
ข่าวการเมืองจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมาสำหรับเด็กๆ เพราะแย่งเวลาการดูการ์ตูน และการสัมภาษณ์นักการเมืองหน้าเดิมๆซ้ำทุกวัน เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องพูดไปเรื่อยๆ

แต่หลังจากนั้นจนแก่มา 30 ปี การเมืองก็ยิ่งเป็นเรื่องโคตรน่าเบื่อ เพราะสูตรสำเร็จการเมืองไทยของผมเป็นได้แค่นี้

1) ฝ่ายรัฐบาล ก็เอาเสนออย่างเดียว เมื่อยกมือเพื่อลงมติก็ชนะทุกครั้ง
2) ฝ่ายค้าน ที่ค้านอย่างเดียว แล้วจะไม่พอใจเสมอที่ยกมือไม่ชนะ
3) รัฐบาลที่ชอบเป็นต้นเหตุของการออกนโยบายสร้างเงื่อนไขในการชุมนุมคัดค้าน
4) กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ที่ขยายผลการชุมนุมเพื่อล้มล้างรัฐบาลเสมอ
5) การประท้วงที่สำเร็จ คือ ได้รัฐประหาร, และการนองเลือด
6) การเลือกตั้งที่ผู้ชนะจะโดนกล่าวหาว่าซื้อเสียงเสมอ
7) ฝ่ายใดที่อ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า ย่อมได้เปรียบ
8) ทักษะทางวิชาการไม่เกี่ยวกับอาชีพนักการเมือง Skill การพูดเท่านั้นที่สำคัญ
9) ระบบทุนนิยมเป็นองค์ประกอบของปัญหา ตั้งแต่การเลือกตั้งจนไปถึงการโค่นล้มเสมอ
10) เราสามารถแปลความหมายของประชาธิปไตยไปในแนวทางที่ตนเองได้เปรียบ

ตราบใดที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองยังขาดจิตสำนึกต่อส่วนรวมและเรายังเลือกตั้งเข้าไป ข้อเรียกร้องจากการชุมนุมแบบสงบสันติไม่สามารถได้ยินเสียงตอบรับจากผูู้มีอำนาจตอนนั้นได้ ก็จะเป็นอย่างงี้ต่อไปอีก 30 ปี เพราะเรื่องการเมืองไม่ใช่การที่คนเพียงคนเดียวจะเข้าไปแก้ไขได้ แต่มันเกิดจากวิธีการคิดของคนส่วนใหญ่เท่านั้นที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงได้

Red Shirt Protest
Red Shirt Protest [Image Huffpost]
ไม่ต้องบอกให้สังคมและการเมืองเกิดการปฏิรูป ลองย้อนมองดูประชาชนด้วยกันเองก่อนว่าปฏิรูปความคิดตนเองให้ลอยตัวจากการเลือกตั้งเพราะทุนนิยมตั้งแต่วันเลือกตั้งได้หรือยัง

Written by Tiwakorn Laophulsuk

1 comment:

  1. บังเอิญผ่านเข้ามาอ่าน เห็นด้วยกับมุมมองของคุณนะ

    ReplyDelete

Give a comment ...