01 May 2013

Cyber Oasis Co.,Ltd. กรณีศึกษาความล้มเหลวปี 2005 - 2011


Cyber Oasis (year 2000)
Cyber Oasis Group
Original logo
since 2003
คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเขียนเป็น blog ดี หรือจะใช้วิธีการเล่าปากเปล่าให้ฟัง เพราะการเขียน Case Study นี้เคยเป็นปัญหาใหญ่ และเป็น Fail ของตัวเราเองด้วย แต่ก็ตัดสินใจว่าเขียนละกัน ซึ่งต้องขอแนะนำก่อน สำหรับบริษัท Cyber Oasis Co.,Ltd. (ขอเรียกสั้นๆว่า CO) ผมมีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่การเปิดกิจการ เรียกได้ว่ามีกราฟของจุดสูงสุดจนถึงจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยความตั้งใจอยากให้กรณีศึกษานี้เอาไว้สำหรับรุ่นหลังสำหรับคนที่อยากประกอบการใหม่ หรืออยากเปิดบริษัทใหม่กับเพื่อนๆ โดยเฉพาะ ขอเล่าโดยแบ่งเป็นหัวข้อแต่ละบทไปดีกว่านะ

แนวคิดเก่าๆ ห้ามลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อน จริงหรือ?
คำพูดนี้ ไม่เป็นความจริงเลย สำหรับคนที่อยากจะเปิดธุรกิจทำกับเพื่อน ถ้าถามกลับว่า "ถ้าทำงานโดยไม่รู้นิสัยกันแล้ว ไม่เชื่อใจเพื่อน แล้วจะเชื่อใจใคร" ไม่แปลกที่ผู้ใหญ่รุ่นเกิดปี พ.ศ.2480 - 2500 หรือผู้ที่ทำอาชีพราชการอาจจะเชื่อแบบนี้ เพราะเขาอาจจะเห็นความล้มเหลวของคนรุ่นเดียวกันมาก่อน แต่โลกทุกวันนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบไปในเรื่องของธุรกิจ เพราะถ้าเราไม่กล้าหาญในการเดินธุรกิจให้ตัวเอง ก็ต้องยอมเป็นลูกจ้างหรือพนักงานบริษัทไปตลอด ในส่วนตัวผมเองเชื่อว่ามีไม่กี่คนหรอกที่จะได้รับธุรกิจสืบทอดจากจากบรรพชน สามารถสืบสานรายได้ต่อเองโดยอัตโนมัติ จึงขอเริ่มโดยตั้งคำถามเป็นคำนำของเรื่องราวนี้ไว้ครับ

The Take Over
บริษัท CO เริ่มจากบริษัทเดิม คือ SG Cyber System Co.,Ltd. (ปัจจุบัน SG Cyber System เปลี่ยนชื่อแล้วเป็น Blue Dolphin IT Co.,Ltd.) ให้บริการติดตั้งเครือข่ายตามหอพัก และร้านอินเตอร์เน็ตข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาหลายปี ซึ่งในช่วงนั้น การแข่งขันและการลงทุนเริ่มมีมากขึ้น และกระแสเงินสดหมุนเวียนของพื้นที่นั้นถือว่ามีปัญหาพอสมควร เพราะได้กำไรช้า ค่าเช่าแพง ค่าแรงสูง นักบินลิขสิทธิ์รีดไถ แต่จะไปเก็บเงินลูกค้าหนักมากก็ไม่ได้เพราะเป็นนักศึกษา บริษัท SG จึงมีแนวคิดจะยุติการให้บริการในพื้นที่ธรรมศาสตร์ทั้งหมดโดยจะขายกิจการออกให้คนอื่นแทน

ด้วยการตัดสินใจนั้น ผมและเพื่อน Marketting คนหนึ่งโดยคุณตี๋ (นามสมมติ ต่อไปจะเรียก MD นะ) พร้อมกับทีมที่ทำงานเดิมบางส่วนเห็นว่า พื้นที่นั้นน่าจะแก้ไขปัญหาได้ ถ้าสามารถบริหารต้นทุน และการแก้ไขปัญหาการบริการของพนักงานที่ทำงาน โดยเปลี่ยนเอาพนักงานที่มีปัญหาเยอะๆออก และให้พนักงานที่พอเข้าใจวิธีคิดแก้ปัญหากับทีมเราขึ้นเป็นหัวหน้าแทน โดยบางคนเราก็ไล่ออกซึ่งๆหน้าก็มี การเปลี่ยนแปลงช่วงนั้นก็พบปัญหาหลายอย่าง มีตั้งแต่การเปลี่ยนโอนสัญญาเช่า, เปลี่ยนแปลงสัญญาการจ้างงาน, เริ่มนำร่องลงทุนบางส่วนเพื่อเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มหุ้นเดิม ต้องทำทั้งหมดเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างส่วนใหญ่ และจัดตั้งเป็นบริษัท Cyber Oasis ขึ้นมา ซึ่งชื่อนี้ ได้มากจากร้านอินเตอร์เน็ตที่กลุ่มทุนชุดเดิมตั้งชื่อเอาไว้
Cyber Oasis (In 2005)
Cyber Oasis Co.,Ltd.
Used logo after taken over on 2005

การ Take Over ทำให้บรรยากาศระหว่าง 2 ฝ่ายคือบริษัทฯเดิม กับทีมเราไม่ค่อยดีนัก เพื่อให้มีความเหมาะสมตัวเราเองและทีมที่ Take Over ก็ต้องขอลาออกจาก SG เพื่อมาทำงานกับ CO แต่ก็ยังมีข้อพิพาทหลายเรื่อง เช่น ราคาขาย Asset ที่ SG ให้กับ CO ต่ำไปบ้าง, ไม่ก็ปัญหาค่ามัดจำห้องเช่าบ้าง, รวมไปถึงพนักงานเดิมบางคนที่ไม่ได้ต่ออายุการจ้างงานบางส่วนก็กลับไปโวยวายกับบริษัทเก่าหรือประกันสังคม ช่วงนั้นเราก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้เกิดปัญหากับ SG พอสมควร แต่ในที่สุดก็ค่อยๆตกลงแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องๆไปได้ และพนักงานเดิมทั้งหมด 8 คน มีเพียง 2 คนที่เราให้ออกไป ส่วนที่เหลือเราก็ให้ทำงานต่อ

Re-Engineering Process
การปรับเปลี่ยนการให้บริการ ในทีมเราและ MD มีตั้งแต่ การกู้เงินเข้ามาเพิ่มทันที จำนวน 1,000,000 บาท แต่ด้วยการที่เราหาดอกเบี้ยได้ถูกแค่ 3% แบบคงที่ซึ่งผู้ใหญ่อนุเคราะห์ให้มา อีกทั้งเงินกู้เป็นการขอรับชำระดอกเบี้ยรูปแบบพิเศษคือ ให้คืนทั้งต้นและดอกเบี้ยบางส่วนเลยในปีถัดไปโดยไม่ผ่อนชำระเป็นรายเดือน ก็ช่วยให้บรรยากาศการกู้เงินไม่น่าเป็นห่วงนัก  จากนั้นได้นำไปลงทุนในการเปิดร้านอินเตอร์เน็ตเพิ่ม จากเดิมที่มี 3 สาขา ให้กลายเป็น 7 สาขา มีการลงทุนหอพักใหม่อีก 3 หอพัก ซึ่งทั้งหมดใช้เงินกู้ไปทั้งหมดเกลี้ยง ซึ่งเราเองและ MD ได้วางกรอบด้าน Cash flow กันในรายละเอียดต่างๆ เป็นภาพมุมสูงก่อนเริ่ม kick-start  แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องควักเพิ่มกันอีกบางส่วน รวมทั้งหมดแล้วใช้เงินไปราวๆ 2,800,000 บาท รวมเงินกู้ด้วย
Cyber Oasis Data Network Diagram.
Cyber Oasis Data Network Diagram.
The system services more than 1,000
concurrent users with maximum
to 2,500 subscriber

Good Outcomes
จากการลงทุนและการปรับรูปแบบการให้บริการ ช่วยให้มีรายรับเพิ่มขึ้นมาก รวมไปถึงการย้ายวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงนั้น ที่ทำให้วิทยาเขตรังสิตมีนักศึกษาเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยในแต่ละเดือน มีรายรับเข้ามาสูงถึง 200,000 - 250,000 บาท ซึ่งถ้าดูเผินๆแล้ว ใช้เวลาไม่นานก็คงคืนทุน ถ้ามองยาวไปอีก 2 ปี ก็น่าจะครอบคลุมการลงทุนของผู้ถือหุ้นด้วย ในช่วงนี้สำหรับผมคือจุดสูงสุดของ CO ที่มีในตอนนั้น
Cyber Oasis 1
Cyberoasis Cafe Branch 1
after re-engineering
Put the man in the proper job
จากเนื้องานที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น ตัวกรรมการเอง ก็ต้องมีการกระจายการบริหารจัดการ ซึ่งเราตกลงกันว่า ให้ MD และแฟน เป็นผู้จัดการในเรื่องการเงินและภาษีนิติบุคคล ตัวผมเป็น Network Engineer และงานด้าน Services กับเพื่อนอีกคนที่เข้ามา join ด้วย เริ่มมีการกำหนดฐานเงินเดือน ซึ่งในตอนนั้นเราเองก็ไม่ได้มั่นใจในเรื่องการจัดการเงิน ก็ได้แค่สบายใจว่าอย่างน้อยถ้าเรื่องการเงินมีปัญหาก็ยังพอมีคนดูแลอยู่ นับตั้งแต่ตอนนั้นตัวผมเองจึงไม่ได้ดูงบการเงิน หรือแม้แต่บัญชีรายรับ-รายจ่ายเลย ซึ่งได้แค่หวังว่าถ้ามีปัญหาอะไรตัวกรรมการเองก็น่าจะคุยกันได้

ส่วนตัวผมเองเห็นว่า การแบ่งหน้าที่ทำงานในแต่ละส่วนนั้น เป็นขั้นตอนที่ทำได้ถูกต้องแล้วในเวลานั้น แต่กระบวนการสื่อสารระหว่างกันเองต่างหากที่ทำให้ปัญหาเริ่มเกิดขึ้น เพราะในหลังจากนั้นตัวกรรมการอื่นๆ ก็ไม่ทราบและไม่รับรู้ในเรื่องรายได้อีกเลย

Stall Catalyst
ช่วงนั้นเป็นกลางปี 2006 ทาง MD และผู้ช่วย ได้มาบอกในการประชุมย่อยว่า ทางผู้หลักผู้ใหญ่ของทางบ้านที่เป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุน เห็นว่ารายได้ของกรรมการมีน้อยเกินไป และเสนอให้มีการปรับฐานเงินเดือนทุกคน ซึ่งในช่วงนั้นตัวผมเองก็ไม่ได้ดูข้อมูลมากนัก เพราะติดเรียนปริญญาโทและทำในส่วนของระบบ จึงได้แค่พูดคุยว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้าสามารถคืนเงินกู้และบริหารค่าใช้จ่ายพื้นฐานและคงมีกำไรอยู่บ้างได้

ในสิ้นปีนั้นเอง ซึ่งเป็นช่วงระยะที่จะต้องพิจารณาบริหารการจ่ายเงินกู้คืน ผลปรากฎว่าไม่สามารถชำระคืนได้ตามที่ตั้งไว้ โดยทำได้แค่ชำระคืนบางส่วนประมาณ 400,000 บาท จากที่ตั้งไว้ว่าจะคืน 7 แสน หรือคืนหมดเลยตามที่คุยกัน ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ตัวผมเองเริ่มให้ความสนใจในการดูงบการเงินขึ้นมา แต่ ณ ตอนนั้นดูได้แค่ตัวเลขเงินเข้าออกในบัญชีเท่านั้น จึงได้ทราบว่า MD และผู้ช่วย ได้ปรับขึ้นเงินเดือนตนเองสูงมากจนแทบจะกลบกำไรหมด ข้อเสนอตอนนั้นผมจึงขอเสนอให้ระงับการจ่ายเงินเดือนกรรมการทุกคน (รวมตัวเอง) แต่โดนคัดค้าน ซึ่ง MD กลับไปใช้วิธีการให้เงินเดือนมีสถานะเป็นหนี้กับกรรมการไปก่อน เพราะทาง MD บอกว่า ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยเอาตำแหน่ง MD เป็นประกัน
Cyber Oasis 5
Cyberoasis Cafe Branch 5th
Open for 8 months before
closing due to financial problems

ปัญหาต่อเนื่องมาในปี 2007 โดยกรรมการก็ได้รับเงินเดือนบ้าง ไม่ได้บ้าง และผู้ให้กู้เงินปรับวิธีการชำระเงินคืนเป็นผ่อนชำระ ผมและเพื่อนจึงได้พยายามขอตรวจงบการเงินและการเสียภาษี แต่ก็เรียกข้อมูลไม่ได้โดย MD บอกว่า ข้อมูลอยู่ที่บริษัทรับจ้างทำบัญชี แต่จะตามข้อมูลมาให้ แต่ด้วยปัญหาการไม่จ่ายค่าตอบแทน และต้องทำวิทยานิพนธ์ รวมถึงการที่เราเป็นหุ้นเล็กเพียง 10% จึงได้แค่กำชับให้ MD และผู้ช่วยบริหารการเงินให้ได้ ถ้าจะปิดส่วนใดที่ขาดทุนก็ทำได้ หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็ขอให้คุยกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นตัวเร่งให้บริษัทมีสถานะทางการเงินตกต่ำลงเร็วมาก

Self-Sqeeze and Downsizing
ผลกระทบจากหนี้สินต่อเนื่อง และการปิดบังงบการเงิน ผลกระทบหนักในช่วงปี 2008 โดยตั้งแต่กลางปี MD ได้เปลี่ยนระบบการจ่ายเงินเดือนพนักงานจากรายเดือนเป็นรายสัปดาห์ เพราะมีการจ่ายเงินเดือนล่าช้า มีการปิดบางร้านเพื่อดึงเอาเงินค่ามัดจำออกมา และทำการชำระหนี้เงินกู้ไปได้จนหมด ขนาดถึงวันนั้นตัวเราเองก็ยังของบการเงินมาดูไม่ได้ ในความเข้าใจตอนแรกคิดว่า เมื่อชำระเงินกู้ได้หมดปัญหาทุกอย่างน่าจะหมดไป แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะในปลายปี 2008 มีพนักงานบางส่วนขอลาออกเนื่องจากการขาดส่งเงินเดือน และผู้ให้บริการวงจรเครือข่าย Fiber Optic ได้ขอตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตเนื่องจากค้างจ่าย โดยปัญหาต่างๆได้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก

Fraud and Giving Up
จากการบังคับขอตรวจงบการเงิน ได้ข้อสรุปมาแค่คร่าวๆว่า MD ได้นำเงินของบริษัทบางส่วนออกไปทำธุรกรรมนอกกิจการโดยไม่ได้คุยกันภายใน โดย MD คาดไปเองว่าถ้าได้กำไรจะนำมาแก้ไขปัญหาหนี้สินของบริษัทฯ แต่ด้วยธุรกิจนั้นเกิดปัญหาและทำให้บริหารเงินสดไม่ทัน ในต้นปี 2009 ทาง MD แจ้งว่า จะไม่บริหารกิจการต่อ เนื่องจากงานที่ลงทุนภายนอกมีปัญหา ทำให้ไม่มีเวลาดูแลกิจการ จึงได้ส่งมอบบัตร ATM ที่ผูกกับบัญชีออมทรัพย์ พร้อมเงินสดคงเหลือในบัญชี 670 บาท โดยไม่ได้ส่งมอบสมุดบัญชี ซึ่งได้แค่บอกว่าหายไปนานแล้ว จากการที่บัญชีเป็นชื่อบัญชีร่วมทำให้เราตรวจสอบลำบากเหมือนกัน ผมจึงต้องจำใจปล่อยให้ตัวเลขเงินเงินสดต่างๆ อยู่ในสถานะคลุมเครือต่อ แต่ก็ต้องไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเลข จากการติดตามในเชิงลึกทำให้พบว่า ยังมีค่าเช่า, เงินประกันสังคมที่ไม่ได้จ่าย, และตลอด 2 ปีที่เริ่มไว้ ไม่มีการชำระภาษีนิติบุคคลเลย รวมไปถึง VAT ที่ได้รับก็ไม่ได้นำไปรายงานและชำะภาษีด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ณ ขณะนั้น

Recovery
ณ ตอนนี้ถือว่าได้รับหน้าที่กู้สถานะทางการเงินของบริษัทที่มีหนี้สินหนักๆนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยเอาการ นี่แค่บริษัทฯที่มีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านเองนะเนี่ย การแก้ไขที่ต้องเริ่มคือลงไปตรวจสอบตัวเลขในรายละเอียดของทุกๆหน่วยปฏิบัติงาน และตัดทิ้งส่วนที่ขาดทุนทั้งหมด (cut loss) การคืนพื้นที่เช่า ทำให้เราสามารถนำเงินมัดจำกลับมาหมุนเวียนได้, การเจรจาต่อรองขอผ่อนชำระหนี้ค้างจ่าย, รวมถึงต้องบริหารรายจ่ายและรายรับอย่างเข้มงวด ขนาดถึงระดับว่าโอนเงินมีค่าธรรมเนียม 35 บาท ก็ยอมจ่ายไม่ได้เลยทีเดียว

ต้องไปเจรจากับ MD เก่า เพื่อจะขอแสดงตัวเลขหนี้สินจริงที่ยังค้างอยู่ และถือเป็นข้อผิดพลาดในการบริหารจัดการของ MD และการเงินเดิมของยอดทั้งหมดก่อนที่เราเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งทาง MD เดิมก็ยอมรับเงื่อนไขและช่วยทยอยคืนในตัวเลขหนี้สินนั้น ส่วนตัวเราเองก็ต้องยอมควักจ่ายในบางเรื่อง เพื่อให้ปัญหาเฉพาะหน้าผ่านก่อนก็ถือว่ามีความจำเป็นที่ตำแหน่งกรรมการต้องรับผิดชอบ

Conclusion
นั่นคือจุดเปลี่ยนแปลงของบริษัท Cyber Oasis ที่เกิดขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน ตัวบริษัทได้อยู่ในสถานะไม่เคลื่อนไหวและนำส่งรายงานงบ Blank เพื่อรอปิดบริษัท แม้ว่าตอนนี้ตัวเราเองก็ยังไม่รู้ว่าหนี้ของภาษีนิติบุคคลเหลืออยู่เท่าไหร่ (เพราะ MD เดิม ไม่เปิดเผยตัวเลข) แต่ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบเดิมที่ต้องแก้ไขปัญหาไป

ข้อคิดสำหรับคนจะเปิดบริษัทใหม่ น่าจะได้ข้อคิดจากปัญหาที่เกิดขึ้น ดังต่อไปนี้
  • ห้ามใช้วิธีคิดของมนุษย์เงินเดือน ที่ตั้งคำถามว่า "ทำมากไปแล้วได้อะไร เหนื่อยไปได้อะไร" ถ้าใจเรายังมีคำถามนี้ซ่อนอยู่ ห้ามทำบริษัทฯโดยเด็ดขาด
  • เพื่อนร่วมงานที่จะเป็นกรรมการ ต้องมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อที่จะทำหน้าที่ช่วยกันได้ทั้งหมด โดยต้องมีความรู้ครบในด้านผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่องค์กรต้องทำตามยุทธศาสตร์ขององค์กร บวกกับคนที่มีความรู้ด้านการเงินและบัญชีควบคู่ไปด้วย
  • ต้องโปร่งใสในตัวเลขทางการเงินสูงสุด การทำบริษัทบางช่วงเวลาไม่ได้มีแค่กำไรอย่างเดียว ทุกคนต้องเข้าใจสถานะขาดทุนด้วย และไม่ใช่ฝ่ายบัญชีและการเงินที่รับผิดชอบด้านการเงิน แต่หน้าที่ของแผนกนี้ นอกจากนำเงินเข้าออกให้ถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่สื่อสารให้ทราบถึงสถานการณ์ทางการเงิน เพื่อให้กรรมการทั้งหมดรับทราบเพื่อร่วมคิดตัดสินใจ
  • กำหนดมอบหมายให้ซักคนเป็น MD ต้องเป็นผู้ที่มีธรรมาภิบาล หรือคนในกลุ่มเห็นพ้องว่า สามารถตัดสินใจอย่างเป็นกลางและมีทิศทางที่ถูกต้องได้ ข้อนี้เป็นข้อที่ปฏิบัติยากที่สุด เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าคนหนึ่งๆจะทำได้ดีแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่าการให้คนตัดสินใจมีจำนวนไม่กี่คนนั้น สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่าร่วมกันตัดสินใจ
  • จัดกลุ่มประชุมวงแคบๆ บ่อยๆ ในช่วง Start up เพราะการเปลี่ยนแปลง Process การทำงาน จะเกิดขึ้นตลอดเวลาเมื่อเริ่มทำธุรกิจ และในวันหนึ่ง Process จะไปถึงจุดสมดุลของมันเอง ผ่านการปรับปรุงร่วมกันของผู้ก่อตั้ง
  • ถ้าตัวเราเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องกล้าที่จะยืนขึ้นและผลักดันให้เป็นไปในแนวทางนั้น โดยมีข้อมูลและเหตุผลที่ถูกต้อง การปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปก่อนแล้วค่อยกลับมาแก้ไขนั้น มันเหมือนกับการประกอบแก้วที่แตกแล้วกลับมาใช้อีก ซึ่งเสียเวลาและความสัมพันธ์ขององค์กรจะไม่ดีเหมือนเดิม
  • ระลึกไว้ว่า ถ้าตรรกะของการบริหารจัดการถูกต้อง อย่ากลัวว่าเราจะผิด อย่ากลัวว่าตัวเรามีความสามารถไม่พอ เพราะการกลัวที่จะไม่ทำอะไรนั้น จะเกิดความเสียหายต่อ "เวลา" ในวิธีคิดของผมเองในการทำบริษัทนั้นมีคำว่า "สายเกินไป" อยู่ในพจนานุกรม จงใช้สิทธิของความเป็นกรรมการแก้ไขปัญหาทันที แม้ว่าตอนนั้นเราอาจจะถูกมอบหมายให้ทำงานส่วนอื่นอยู่ก็ตาม
คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงนิสัยใจคอตัวเองไม่ได้ แต่สามารถเลือกที่จะผลักดันตัวเองได้ ถ้าใครทำ Business เฉพาะขนาด SME อยู่ และบางเรื่องด้านการบริหารจัดการที่ไม่รู้จะคุยกับใคร ลองแวะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ

Written by Tiwakorn Laophulsuk
30-Apr-2013

2 comments:

  1. ผมพึ่งได้มีโอกาสได้มาอ่านบทความของพี่หลังจากผ่านมาแล้ว 5-6 ปี ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของพี่ครับ ผมสามารถมีทุกวันนี้ได้เพราะพี่ครับ ขอบคุณมากๆครับ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล คิดถึงพวกพี่จริงๆ

    ReplyDelete
  2. พี่จุ่นสุดยอด :D

    ReplyDelete

Give a comment ...